บารมี “ส.ว.” โยง “เด็กฝาก” จุดประเด็นโละ “วุฒิสภาลากตั้ง”
กรณีของ "กรศศิร์" ถูกเขย่าโยงถึง "วุฒิสภา" โดย "ส.ส.พรรคก้าวไกล" ซึ่งมีธงโละ ส.ว.ลากตั้งและจุดประกาย "สภาเดี่ยว" เชื่อว่าหาก "ส.ว." ไม่เคลียร์ตัวเอง ประเด็น "โละวุฒิสภาลากตั้ง" แรงสังคมจะขยายวงสนับสนุนในไม่ช้า
กรณี “ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม” ที่ตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย อดีตทหารหญิงรับใช้ อย่างทารุณ ถูกสืบสาวราวเรื่อง ถึงเบื้องหลังของการได้มาซึ่งตำแหน่งผู้บังคับหมู่กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 นั้น
พบความเชื่อมโยงเป็น “เด็กฝาก-บัญชีผี” ของเครือข่ายผู้มีอิทธิพล ผู้มากบารมีใน “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ” ซึ่งได้รับตำแหน่งต่อมา ใน “วุฒิสภา” และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฐานะต้นสังกัดตำรวจสันติบาล และกองทัพ ฐานะผู้รับโอนไปช่วยราชการที่ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า
ล่าสุด จากการตรวจสอบของ 2 กรรมาธิการฯ สภาผู้แทนราษฎร คือ กมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และ กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ที่มี “ส.ส.พรรคก้าวไกล” เป็นโต้โผ คือ “ธีรัจชัย พันธุมาศ” จากกมธ.ปราบโกง และ “รังสิมันต์ โรม” จาก กมธ.กฎมาย
ให้ข้อมูลว่า เรื่อง “ส.ต.ท.หญิง” เชื่อมโยงกับ “ส.ว.” ปัจจุบัน มาตั้งตั้งแต่ปี 2561 หรือสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมี “พล.ร.อ.” และ "พล.ต.อ.” น้องชาย “พล.อ.” ผู้มากอำนาจบารมี เกี่ยวข้อง ตามหนังสือคำสั่งของ กมธ.กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สนช. ที่ 3/2561 ลงวันที่ 31 มกราคม 2561 แต่งตั้ง ให้ “น.ส.กรศศิร์” เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำกมธ. (เพิ่มเติม)
และเชื่อมโยงกับ “ส.ว.” ตามการปรากฏแผ่นป้ายบริจาคเงินให้กับ วัดบางลี่เจริญธรรม จ.ราชบุรี ที่มีชื่อร่วมกับ “กรศศิร์" ปรากฏอยู่
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ธงของการตรวจสอบเรื่องนี้ “พรรคก้าวไกล” พุ่งเป้าไปที่ “รื้อปัญหา” เด็กเส้น- เด็กฝาก ที่เป็นขยะใต้พรมของระบบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในปัจจุบัน โดยเฉพาะในวงการสีกากี และวงการทหาร
ทว่า เรื่องนี้ มีนัยการเมืองที่แฝงอยู่ คือ การใช้อำนาจ - เส้นสาย ที่ฝังอยู่ในมรดกของ “คสช.” โดยมี “คนใกล้ชิด” ของ “พล.อ.ประวิตร” ฐานะประธานคัดสรร “สนช.-ส.ว.” มีส่วนร่วม
ขณะเดียวกัน ภายใต้การเดินเรื่องของ “วัชระ เพชรทอง” ที่ยื่นให้ “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานวุฒิสภา ตรวจสอบความเกี่ยวข้อง ระหว่าง ส.ว. กับ “ส.ต.ท.หญิง” ที่ล่าสุด "พรเพชร” ชงให้ “กรรมการจริยธรรม” ที่มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เป็นประธานไปดำเนินการ
แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไปไม่ถึงฝั่ง เพราะคำร้องของ “วัชระ” ไม่เข้าองค์ประกอบที่ กรรมการจริยธรรมรับไว้ตรวจสอบ เนื่องจากไม่ได้ระบุ “คนต้นเรื่อง” ที่ชัดเจน
แม้ “วัชระ” ไม่ละความพยายาม ได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมไปให้ พร้อมย้ำปมกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 ว่าด้วยข้อห้าม “ส.ว.” ใช้สถานะหรือตำแหน่งก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อประโยชน์ตนเอง ผู้อื่นหรือพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (1) การปฏิบัติราชการ และ (3) แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตำแหน่ง ขึ้นเงินเดือนของข้าราชการ
ทว่า เรื่องนี้มีทีท่าว่า “จะถูกตีตก" เพราะกรณีของ “กรศศิร์” ที่เป็นต้นเรื่อง กล่าวหาโยง "ส.ว." นั้น ปัจจุบันพ้นตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และผู้ช่วย ส.ว.แล้ว จึงไม่อยู่ในอำนาจที่กรรมการจริยธรรมจะตรวจสอบต่อไป
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตั้งแต่มีประเด็น ที่โยงกับ “ส.ว.” มีความพยายามที่จะละเลยจากองค์กรของวุฒิสภาเอง ที่ไม่ตรวจสอบข้อสงสัยของสังคม ซึ่งตั้งคำถามมายัง “จริยธรรมส.ว.” ที่ควรทำหน้าที่เป็นแบบอย่างของ “สภาสูง-สภาคนดี” กับสังคม
ทำให้ องค์กรของวุฒิสภาปัจจุบัน ถูกตั้งคำถามว่า มีตำแหน่งเพื่อช่วยพวกพ้อง ไม่กล้าแตะ “เครือญาติของคนมากบารมี” แม้ว่าจะมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า เป็นต้นตอของปัญหาการแต่งตั้งโยกย้าย
ประเด็นนี้ ในอนาคตจะถูก “ฝ่ายการเมือง” ปลุกเร้า ขยับไปสู่ประเด็น “สภาเดียว” หรือ “โละ ส.ว.ลากตั้ง” และเชื่อว่า “สังคม” จะตอบรับ หลังมีเรื่อง “กรศศิร์” ให้เห็นเป็นเชิงประจักษ์แล้ว.