ทบ.โชว์ผลงานปี 65 ลุยจับ “ยาบ้า” กว่า 221 ล้านเม็ด สกัดลอบเข้าเมือง 4.7 หมื่นคน
โฆษกกองทัพบกโชว์ผลงาน ปี 65 ทบ.กวาดล้างจับกุมผู้ค้า “ยาบ้า” กว่า 221 ล้านเม็ด สกัดพวกลักลอบเข้าเมืองกว่า 4.7 หมื่นคน ลั่นพร้อมดูแลประชาชนจากภัยพิบัติตามนโยบายรัฐ
เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2565 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบก แถลงถึงการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกประจำเดือนกันยายน 2565 โดยเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในปีงบประมาณ 2565 ซึ่งได้มีการนำเสนอผลการปฏิบัติงานในปีที่ผ่านมาของ กรมฝ่ายเสนาธิการและคณะทำงานของกองทัพบก โดยเป็นการนำนโยบายและเจตนารมณ์ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไปสู่การปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคง รวมทั้งการพัฒนาระบบงานและปรับการบริหารจัดการหน่วยให้มุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น
พล.อ.สันติพงศ์ กล่าวอีกว่า ผู้บัญชาการทหารบก ได้เริ่มการประชุมด้วยการขอบคุณกำลังพลทุกระดับที่ได้ทุ่มเทปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มความสามารถตลอดปีที่ผ่านมา ผลงานเป็นที่ประจักษ์ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศ โดยเฉพาะการช่วยเหลือดูแลประชาชน พร้อมระบุถึงภารกิจการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน โดยในรอบปีงบประมาณที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก สามารถจับกุมยาบ้าได้ถึง 221,292,977, ไอซ์ 3,400 กิโลกรัม, เฮโรอีน 58 กิโลกรัม, คีตามีน 515 กิโลกรัม, ฝิ่น 61 กิโลกรัม และยาอี 4 กิโลกรัม
โฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า การสกัดกั้นยาเสพติดได้เป็นจำนวนมากในรอบปีนี้ เป็นตัวชี้วัดได้ว่าการปฏิบัติงานของกองทัพบกและกองกำลังป้องกันชายแดน ได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มขีดความสามารถในการพิทักษ์ปกป้องคนไทย ไม่ให้ยาเสพติดหรือภัยที่เกี่ยวเนื่องมาจากขบวนการยาเสพติดเข้ามาทำร้ายสังคมไทย ในขณะเดียวกันหากเทียบยาบ้าที่จับได้สูงถึง 221 ล้านเม็ด ยาบ้าจำนวนดังกล่าวอาจสร้างผลกระทบทางลบให้กับประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและอาชญากรรม ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกได้ให้กำลังใจและชื่นชมทุกหน่วยงานของกองทัพบกในปฏิบัติการหยุดยาเสพติดดังกล่าว นอกจากนี้ในเรื่องการสกัดกั้นจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในปี 2565 สามารถจับกุมได้ถึง 47,420 คน ซึ่งมีจำนวนสูงกว่าการจับกุมในปี 2564 ถึง 5 เท่า เป็นผลสัมฤทธิ์จากการลาดตระเวนป้องกันและประสานกับส่วนราชการท้องถิ่น รวมถึงประชาชนอย่างใกล้ชิด ถือเป็นตัวชี้วัดในการปฏิบัติงานอีกด้านหนึ่งในประสิทธิภาพและมาตรการที่เข้มแข็งในการดูแลพื้นที่ชายแดนของกองทัพบก
พล.อ.สันติพงศ์ กล่าวด้วยว่า การประชุมในครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้นำความห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม เกี่ยวกับการบรรเทาสาธารณภัย ที่ให้เหล่าทัพสนับสนุนและร่วมกับส่วนราชการที่เข้าช่วยเหลือประชาชนให้เร็วที่สุด รวมถึงการดูแลแนะนำในเรื่องการบริหารจัดการทางการเงินและภาระหนี้สินของกำลังพล ยึดหลักการดำรงชีวิตบนความพอเพียง ส่วนในเรื่องการบริหารจัดการที่ดินของหน่วยทหาร ให้ใช้ที่ดินตามความจำเป็นและเหมาะสม รวมทั้งการใช้ที่ดินในค่ายทหารปลูกต้นไม้และทำการเกษตร เพื่อให้มีผลผลิตให้กับกำลังพล
“ในโอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกระดับ ที่ครบวาระเกษียณอายุราชการ ในเดือนกันยายนนี้ พร้อมยกย่องว่าทุกคนได้ทุ่มเท เสียสละในการทำงานอย่างเต็มที่ตลอดชีวิตการรับราชการ ได้สร้างประโยชน์ให้กับกองทัพ ประเทศชาติ และช่วยเหลือประชาชน จนมาถึงวันเกษียณอายุ และทุกคนจะยังคงเป็นครอบครัวกองทัพบก ที่กำลังพลรุ่นหลังจะได้ระลึกในคุณงามความดี และมั่นใจว่าประสบการณ์ความรู้ความสามารถทางทหารของผู้เกษียณ จะถูกนำมาเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกองทัพบก เพื่อยังประโยชน์ให้กับความมั่นคงของชาติและความผาสุกของประชาชนตลอดไป” โฆษกกองทัพบก กล่าว