เจตนาล้อสถาบัน! คุก 2 ปี “นิว จตุพร” ใส่ชุดไทยเดินแคตวอล์ก เจ้าตัวอุทธรณ์สู้
เล็งยื่นหลักทรัพย์ 2 แสนบาท ขอประกันตัว-ยื่นอุทธรณ์สู้ หลัง “นิว จตุพร” ถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาคุก 2 ปี คดี ม.112 ปมแต่ง “ชุดไทย” เดินแคตวอล์ก ในม็อบราษฎร หน้าวัดแขกสีลม ชี้มีเจตนาล้อเลียนสถาบันฯ
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 2 ยื่นฟ้อง น.ส.จตุพร แซอึง หรือ “นิว จตุพร” กลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก แนวร่วมม็อบราษฎร ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ร่วมกันฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ, ร่วมกันชุมนุมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคระบาด, ร่วมกันชุมนุมก่อให้เกิดความไม่สะดวกในที่สาธารณะ, ร่วมกันไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขคำสั่งเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมฯ และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง โดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีการชุมนุมแต่งกายชุดไทยร่วมกิจกรรมแคตวอล์กราษฎร เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2563 บริเวณหน้าวัดพระศรีอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) เรียกร้องเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันฯ เหตุเกิดที่แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร โดยเบื้องต้น น.ส.จตุพร ให้การปฏิเสธ
ในวันนี้ น.ส.จตุพร สวมชุดไทยเดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมด้วยทนายความ โดยมีเพื่อนเดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง โดยก่อนฟังคำพิพากษา น.ส.จตุพร กล่าวว่า คดีนี้ที่ผ่านมาตนยืนยันให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล ในการสืบพยานตนเองเบิกความด้วยตัวเอง 1 ปากพร้อมนำส่งเอกสารพยานหลักฐานให้ศาลพิจารณาประกอบด้วย ยืนยันว่าในการเข้าร่วมการชุมนุม ใส่ชุดไทยตามปกติ ไม่ได้แต่งเลียนแบบใคร ไม่ได้ให้ใครมากราบมาไหว้ หรือตะโกนทรงพระเจริญ คดีนี้เกิดจากการตีความของบุคคลอื่นและพยานโจทก์ที่มาเบิกความคิดไปเอง ใครจะมองว่าตนแต่งเป็นใครก็ได้ แต่ยืนยันว่าแค่อยากใส่ชุดไทยเท่านั้น
ต่อมา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาว่า ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องพิพากษาจำคุก 3 ปี ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือ 2 ปี ปรับ 1,500 บาท ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือปรับ 1,000 โทษจำคุกไม่รอลงอาญา โดยศาลให้เหตุผลว่า การแสดงมีการเจตนาที่จะล้อเลียนสถาบันฯ โดยมีการตระเตรียมการไว้ โดยขณะนี้กำลังยื่นขอปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์อยู่ โดยอาจจะพิจารณายื่นหลักทรัพย์เดิมที่เคยยื่นไว้ 2 แสน แต่เรื่องหลักทรัพย์ต้องดูรายละเอียดแน่ชัดอีกครั้ง