คุก 2 เดือน แต่รอลงโทษ 1 ปี! "เพนกวิ้น-พวก" คดีชุมนุมหน้า สน.บางเขน
ศาลแขวงดอนเมือง พิพากษาจำคุก 2 เดือน แต่รอลงโทษ 1 ปี "เพนกวิ้น" พร้อมพวกรวม 4 ราย คดีชุมนุมหน้า สน.บางเขน ปรับด้วย11,300 บาท อีก 3 รายรอดตะราง โดนแค่โทษปรับ
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 ที่ศาลเเขวงดอนเมือง ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 9 (แขวงดอนเมือง) ยื่นฟ้องจำเลยที่เป็นแกนนำ และแนวร่วมม็อบราษฎร จำนวน 2 สำนวน จากกรณีชุมนุมหน้า สน.บางเขน เมื่อคืนวันที่ 7 ส.ค. 2563 เพื่อให้กำลังใจ นายภาณุพงศ์ จาดนอก "ไมค์" และนายอานนท์ นำภา 2 แกนนำม็อบราษฎร ที่ถูกจับกุมตามหมายจับในคดีการชุมนุมเยาวชนปลดแอก ได้แก่
สำนวนแรก ยื่นฟ้องนายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ "เพนกวิ้น" แกนนำม็อบราษฎร ในความผิดต่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะ, ความผิดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมการ โฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง, ความผิดต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก
สำนวนที่ 2 ฟ้องนายชาติชาย แกดำ นักกิจกรรม, น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก นักกิจกรรม, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล (มายด์) นักกิจกรรมการเมือง และนักศึกษานักศึกษามหาวิทยาลัยมหานคร, นาย สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ นิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, น.ส.ศุกรียา วรรณานุวัฒน์ นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายภัทรพงศ์ น้อยผาง นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นจำเลย 2 – 7 ในความผิดฐานเดียวกัน
โดยทั้ง 2 สำนวนนี้ ศาลสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน ให้เรียกโจทก์ทั้งสองสำนวนว่า โจทก์ เรียกจำเลยในสำนวนแรกว่า จำเลยที่ 1 และเรียกจำเลย 1 – 6 ในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 2 – 7
โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 7 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 วรรคหนึ่ง และจำเลยที่ 1- 3 และที่ 6 มีความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ มาตรา 8 (1), 10 วรรคหนึ่ง, 27, 28 พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 114 วรรคหนึ่ง, 148 (เดิม) พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ มาตรา 4 วรรคหนึ่ง, 9 วรรคหนึ่ง
การกระทำของจำเลยที่ 1-3 และที่ 6 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง ปรับคนละ 2 พันบาท ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะกีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานที่ที่ทำการหน่วยงานของรัฐ จำคุกคนละ 3 เดือน และปรับคนละ 6 พันบาท ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะกระทำการด้วยประการใดๆ ในลักษณะเป็นการกีดขวางการจราจร ปรับคนละ 3ร้อยบาท ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับคนละ 150 บาท และฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ปรับจำเลยทั้งเจ็ด คนละ 4,500 บาท ทางนำสืบของจำเลยทั้ง 7 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามทุกกระทง
จำเลยที่ 1-3 เเละที่ 6 ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คงปรับคนละ 4 พันบาท ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะกีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานที่ที่ทำการ หน่วยงานของรัฐ จำคุกคนละ 2 เดือน และปรับคนละ 4 พันบาท ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุม สาธารณะกระทำการด้วยประการใดๆ ในลักษณะเป็นการกีดขวางการจราจร คงปรับคนละ 2 ร้อยบาท ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต คงปรับคนละ 100 บาท และฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานคงปรับจำเลยทั้ง 7 คนละ 3 พันบาท
รวมจำคุกจำเลยที่ 1-3 เเละ 6 คนละ 2 เดือน และปรับคนละ 11,300 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1-3 เเละ 6 เคยรับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาอื่นสำหรับจำเลยที่ 4, 5 เเละ 7 ให้ยก