"สมคิด" โชว์วิสัยทัศน์ภูเก็ต แซะ ส.ส.ใต้ มีแต่ประกันรายได้ทั้งปี
“สมคิด” ถอดสูทสวมเสื้อบาบ๋าขึ้นเวทีภูเก็ตโชว์วิสัยทัศน์ ห่วงวิกฤติเศรษฐกิจอันดามันเป็นสึนามิที่มองไม่เห็น ซัดมหาดไทย ถ้าหัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก แซะ ส.ส.ใต้ เห็นมีแค่ประกันรายได้ทั้งปี เหน็บวาทกรรมพรรคเก่าส่งเสาไฟฟ้าก็ชนะ ไม่รู้ตกลงเป็น ส.ส.หรือเสาไฟฟ้า
วันที่ 15 กันยายน 2565 ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า จ.ภูเก็ต นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ร่วมเสวนา “อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง” โดยมีประชาชนในพื้นที่ร่วมงานคึกคัก
โดย นายอุตตม กล่าวบนเวทีว่า วันนี้พรรคสร้างอนาคตไทย ขออาสาแก้ปัญหาปากท้องคนไทยเป็นเรื่องแรก พร้อมประกาศจะจัดเสวนาแก้ปัญหาเศรษฐกิจทั่วประเทศ ทั้งนี้เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์กับขอเสนอภาคธุรกิจอันดามัน เพื่อนำมาเป็นนโยบายพรรคใน 3 แนวทางคือ 1.ช่วยหยุดเลือดไหล โดยจะจัดทำคลินิกแก้หนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ 7 ปีเป็นอย่างน้อย พร้อมเงื่อนไขดอกเบี้ยไม่เกินห้าเปอร์เซ็นต์ที่เรียกว่าจ่ายหน้าต่ำหลังสูง 2.ให้ยาเพิ่ม ซึ่งไม่ใช่ยาแบบเดิมๆ เติมทุนใหม่ จัดซอฟต์โลนไม่เกินร้อยละห้า 7 ปีขึ้น ตั้งงบพิเศษโดยรัฐบาล หรือให้สามารถนำเครื่องมือทำมาหากิน มาค้ำประกันเงินกู้ได้ 3.เติมวิตามินเสริมแกร่ง อาทิ การกำหนดให้การจัดซื้อภาครัฐให้แต้มต่อคนตัวเล็ก เช่น กระตุ้นการท่องเที่ยวจากงบสัมมนา
ช่วงหนึ่งนายอุตตม กล่าวถึงโครงการแอปเป๋าตัง และพร้อมเพย์ว่าเป็นแนวคิดของนายสมคิด และตนก็ได้นำขยายผล ดังนั้นในอนาคตก็จะมีแอปอื่น ที่จะมาช่วยคนตัวเล็ก ซึ่งเคยทำมาแล้ว และมั่นใจว่าทำได้
นอกจากนี้จะใช้กองทุนสร้างอนาคตไทย เติมทุนการศึกษา ผลักดันให้อันดามันเป็นศูนย์กลางการศึกษาภาคอินเตอร์ โดยใช้อินเทอร์เน็ตกระจายไปทั่วประเทศ
ขณะที่ไฮไลต์ของงานคือ การโชว์วิสัยทัศน์ของนายสมคิด ซึ่งนับเป็นเวทีแรกหลังการเปิดตัวรับตำแหน่งประธานพรรค ที่ถอดสูทสวมบาบ๋า ขึ้นเวที ระบุเกือบ 15 ปีแล้ว ที่เราวนอยู่ในอ่างของการทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายลากยาวจนเกินไปแล้ว จนประเทศชักจะไม่ไหว เรามีการเมืองระบบประชาธิปไตย แต่เราไม่สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นการคิดต่างหาจุดลงตัว และขับเคลื่อนเป็นเหตุผลที่ตนกลับมา ไม่ใช่ตำแหน่งเพราะมีครบถ้วนเพียงพอแล้ว วันนี้เรามีภารกิจ 2 ข้อ คือ 1.กอบกู้ 2.สร้างอนาคตให้อันดามัน
นายสมคิด เล่าย้อนถึงเหตุการณ์สึนามิ ตอนนั้นตนเห็นเขาหลักเหลือแต่ซาก วิกฤติครั้งนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากสึนามิที่มองไม่เห็น ทำให้ประชาชนล้มทีละราย แล้วจะให้นั่งดูได้อย่างไร ซึ่งอันดามันเหมือนมีไข่มุก 3 เม็ด คือ ภูเก็ต กระบี่ และพังงา ต้องร้อยสายสร้อยที่สวยงาม รวมให้เป็นแพ็กเกจการท่องเที่ยว เช่น รถไฟรางเบาเชื่อมสามจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ทำไมจะทำไม่ได้ ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่ผู้นำว่าจะดึงทุนนอกมาใช้ได้อย่างไร ให้เปิดประมูลไปเลย โดยยกตัวอย่างรถไฟฟ้าไทย-จีน ที่ลาวทำเสร็จไปถึงเมืองคุนหมิงแล้ว แต่เรากลับมัวแต่ทะเลาะกัน วันนี้เราได้แต่นั่งมองประเทศลาวตาปริบๆ และอิจฉาเขาด้วย
“ส.ส.ภาคใต้ ทำอะไร ตนเคยนั่งใน ครม. ไม่มีสักแอะ มีแต่ประกันรายได้ ประกันทั้งปี ของหมูๆ แบบนี้ ใครๆ ก็ทำได้ ว่าจะไม่แล้วนะ” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด ได้กล่าวช่วงหนึ่งว่าถ้าได้คุมกระทรวงมหาดไทยเมื่อไหร่สำเร็จแน่นอน ตนตั้งใจอยากทำหมู่บ้านโอท็อป เตรียมทีมไว้แล้ว ขอยืนยันทีมสมคิดไม่ได้มีแค่สองคน มีทั้งใน และนอกพรรค คนการเมือง และไม่ใช่การเมืองที่ซื่อสัตย์สุจริตตนจะเอามาช่วยให้หมด นำคนเหล่านี้ร่วมคนในพรรค เพราะพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ใช่พรรคปิด และเราต้องการระดมความร่วมมือกับทุกพรรค ไม่ได้เป็นศัตรูกับใครดังนั้น “ถ้าหัวไม่ส่าย หางก็ไม่กระดิก” โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย
ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ขยายความเพิ่มเติมว่าในยามที่คุณไม่มีจะกินน้ำตาตกใน เขาทำอะไรอยู่ ไม่ใช่แค่ ส.ส.พังงา ภูเก็ต หรือกระบี่ แต่คือ ทั้งภาคใต้ มันไม่ใช่แค่เรื่องประกันรายได้ ยาง ปาล์ม เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้คิดแค่นั้น คนใต้เป็นคอการเมือง ตนมั่นใจว่าอนาคตการเมืองภาคใต้ จะมีการเปลี่ยนแปลง แต่เราต้องช่วยกันเปลี่ยน ช่วยกันส่งคนรุ่นใหม่เข้ามาการเมือง เรารู้ว่าคนใต้มีความผูกพัน มีความศรัทธากับพรรคการเมืองบางพรรคหรือหลายพรรค แต่ให้ลองคิดว่า 10 ปีที่ผ่านมา ภาคใต้เปลี่ยนแปลงไปเยอะหรือไม่ เหตุใดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในท้องที่จึงไม่เพิ่มขึ้น ในยามที่ประเทศต้องการ การเติบโต
“ขอให้เก็บความเป็นพรรคการเมืองไว้บนหิ้งก่อน เราต้องมองถึงพรรคที่สามารถสร้างอนาคตให้ลูกหลานได้ ไม่ใช่คิดถึงการเลือกตั้งไปวันๆ ที่ผ่านมา ในอดีตมีพรรคการเมืองบางพรรคได้สร้างความศรัทธา และความผูกพันระหว่างรุ่นสู่รุ่น มีรุ่นหนึ่งถึงกับมีการบอกว่าแม้แต่ส่งเสาไฟฟ้าก็ยังได้รับเลือก แต่เมื่อส่งผ่านมารุ่นหลังมีความเข้าใจไม่ถูกต้อง ที่บอกว่าจะส่งเสาไฟฟ้ากลับไม่ใช่ แต่มีที่มาที่ไป มีการผูกมัด ไม่ทำตามสัญญา เวลาเดือดร้อนช่วยเหลือกัน ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่าตกลงเป็น ส.ส.หรือเสาไฟฟ้า” นายสมคิด กล่าวทิ้งท้าย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์