ปมร้าว “กลาโหม-กองทัพบก” แกะรอย “เสธ.ทบ.”ขัดตาทัพ

1 ต.ค.2565 ถือเป็นการเริ่มต้นในปีงบประมาณใหม่ ไปพร้อมๆ กับการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการวันแรกของทหาร 765 ตำแหน่ง หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เมื่อ 10 ก.ย.2565 ที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลให้บรรยากาศการทำงานภายในกองทัพกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ระหว่างนี้ เป็นการเดินสายอำลาหน่วยของทหารที่กำลังเกษียณราชการ 30 ต.ค.2565 นี้ โดยเฉพาะใน “5 เสือ ทบ.” ที่มีเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 22 (ตท.22) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. 2 คน ทั้ง “บิ๊กโต้ง” พล.อ.อภินันท์ คำเพราะ รอง ผบ.ทบ. และ “บิ๊กติ่ง” พล.อ.สันติพงษ์ ธรรมปิยะ เสธ.ทบ.

ส่วน พล.อ.ณรงค์พันธ์ แม้จะวุ่นๆ กับการลงพื้นที่เช็คจุดเสี่ยง-อุดรอยรั่ว ป้องกันน้ำท่วม กทม.-ปริมณฑล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน ในช่วงมรสุมพาดผ่านประเทศไทย แต่ก็ไม่ลืมที่แสดงความยินดีกับทหารที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ในตำแหน่งใหม่ พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และส่งมอบงานอย่าให้ขาดตกบกพร่อง

โดยแผง 5 เสือ ทบ.ใหม่ ประกอบด้วย “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ (ตท.23)ว่าที่รอง ผบ.ทบ. “บิ๊กโต”พล.ท.สุสรรค์ หนองบัวล่าง(ตท.23) ว่าที่ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ (ตท.22) ว่าที่ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และ “บิ๊กหยอย” พล.ท.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ (ตท.24) ว่าที่ เสธ.ทบ.

ชื่อ “พล.ท.อุกฤษฏ์” ยังเป็นที่โจษจันกันในกองทัพบก เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็น “ม้ามืด” จากเจ้ากรมยุทธการทหารบก กระโดดก้าวข้าม รองเสธ.ทบ.ที่จ่อคิวกันอยู่ถึง 5 คน มานั่งเป็น เสธ.ทบ. แม้จะผิดหลักการที่ปฏิบัติกันมา คนที่จะเป็น เสธ.ทบ.ต้องผ่าน รอง เสธ.ทบ.มาก่อน แต่ “พล.อ.ณรงค์พันธ์” จิ้มแล้วว่าต้องเป็นคนนี้

ตำแหน่ง “เสธ.ทบ.” เปรียบเสมือนพ่อบ้าน ทบ.ที่ต้องรู้ทุกซอกทุกหลืบในกองทัพบก ก่อนจะนำเสนอ ผบ.ทบ.ทั้งสายงานการข่าว ยุทธการ การฝึกศึกษาทางทหาร กิจการต่างประเทศ ปลัดบัญชี พ่วงท้ายด้วยเลขา กอ.รมน.และอาจเป็นโฆษกกองทัพบก ไม่ต่างกับ เสธ.ทบ.คนปัจจุบัน

ประเด็นนี้ มีที่มาที่ไปพัวพันกันอยู่ไม่น้อย หลังเกิดจากข้อครหาจัดโผ ไม่เอาพี่เอาน้อง เอาแต่เพื่อนร่วมรุ่น เพราะเดิมที พล.อ.ณรงค์พันธ์ จะเสนอชื่อเพื่อน “บิ๊กเบิ้ล” พล.ท.ภูวนารท ชมพูบุตร รองเสนาธิการทหารบก เป็น เสธ.ทบ. แต่โดนเบรคจาก “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ที่ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม ดูแลจัดทำโผเหล่าทัพให้เกิดความเรียบร้อย เป็นธรรม

ขณะที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ก็มี พล.อ.อภินันท์ เปรียบเสมือนเพื่อนคู่คิด มิตรคู่กาย ไว้คอยปรึกษาหารือในทุกๆ ปัญหา

ก่อนหน้านี้ย้อนไป 3-4 ปีที่แล้ว พล.อ.อภินันท์ เคยถูกส่งออกนอกกองทัพบก มาเติบโตกระทรวงกลาโหม ตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักนโยบายและแผนกลาโหม สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ทำงานอยู่ภายใต้กำกับดูแลของ พล.อ.ชัยชาญ

จากนั้น พล.อ.อภินันท์ ขยับเป็นหัวหน้าสำนักงานประสานภารกิจทางทหารกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ ศูนย์ประสานภารกิจทางทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และรองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม สำนักงานปลัด กระทรวงกลาโหม

แต่สุดท้าย พล.อ.อภินันท์ ถูก พล.อ.ชัยชาญ ส่งตัวกลับ กองทัพบก เนื่องจากมีปัญหาไม่ลงรอยในการทำงานหลายประการ โดยเฉพาะการโยกย้ายในส่วนของสำนักงานปลัดกลาโหมในอดีต

โดย พล.อ.อภินันท์ กลับมานั่งในตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ในปีสุดท้ายของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. และได้ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทบ. หลัง พล.อ.ณรงค์พันธ์ เป็น ผบ.ทบ.

วกกลับมาที่ตำแหน่ง เสธ.ทบ.ในปัจจุบัน เมื่อชื่อที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ส่งไปไม่ผ่านการอนุมัติจากกลาโหม ต้องมาหาชื่อ เสธ.ทบ.คนใหม่ แต่เมื่อดูในตำแหน่ง รองเสธ.ทบ.ที่เหลืออยู่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อน ตท.22 เกือบทั้งหมด

 ทั้ง “บิ๊กยอด” พล.ท.สุดยอด พรมแก้ว พล.ท.พิเศษ ศิริเกษม เหลือเพียงตัวเลือกสุดท้าย “บิ๊กโซ่” พล.ท.ชนาวุธ บุตรกินรี แต่ด้วยที่เป็น ตท.รุ่น 23 เพื่อนรัก “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ว่าที่รอง ผบ.ทบ. ทำให้ชื่อนี้ถูกตีตกไป

เพราะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยังคาใจกับกรณีถูกเลื่อยขาเก้าอี้ หลังมีกระแสข่าวจะถูกโยกไปเป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) หรือไปเป็น ปลัดกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่ปีที่แล้ว จนหนักสุดก็ปีนี้ เพราะเชื่อว่าเป็นพลังความเคลื่อนไหวของ ตท.รุ่น 23

หวยจึงไปออกที่ “พล.ท.อุกฤษฏ์” ได้ขยับเป็น เสธ.ทบ.ช่วยงาน พล.อ.ณรงค์พันธ์ ปีสุดท้าย ก่อนเกษียณราชการ 30 ก.ย. 2566 ส่วนอนาคตของ เสธ.ทบ.ขัดตาทัพ อย่าง “พล.ท.อุกฤษฏ์” ที่มีอายุราชการถึงปี 2570 มีเพียง 2 ทางเลือก ไม่ถูกส่งไปเติบโตที่กองบัญชาการกองทัพไทย ก็ส่งไปกระทรวงกลาโหม

นี่คือเรื่องวุ่นๆ ของการจัดทำบัญชีปรับย้ายทหารปลายปีนี้ ในส่วนของ 5 เสือ ทบ.ที่จบลงแบบคุกรุ่นอยู่ในกลาโหม และ ทบ.