จุดยุทธศาสตร์ "ศึกเมืองร้อยเกาะ" "ไข่แดงปชป." สู้ "รทสช.+กปปส."
“สนามเลือกตั้งเมืองร้อยเกาะ” เป็นเสมือน “ไข่แดง” ค่ายสีฟ้า รอบนี้อาจต้องเจอศึกหนัก จากบรรดาพรรคการเมืองที่พยายามเจาะจุดยุทธศาสตร์เช่นเดียวกัน
“ศึกเลือกตั้ง” ที่กำลังจะมาถึง “สนามแดนสะตอ” ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของบรรดาพรรคการเมืองใน “ขั้วอนุรักษ์นิยม”
โดยเฉพาะจังหวัดภาคใต้ตอนบนอย่าง “เมืองร้อยเกาะ” สุราษฎร์ธานี บ้านเกิด “นายหัวหยัด” บัญญัติ บรรทัดฐาน ที่ถือเป็น“ไข่แดง” และเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ “ค่ายสีฟ้า” ประชาธิปัตย์ ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ
ตอกย้ำชัดจากท่าทีของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” หัวหน้าพรรค ล่าสุด เตรียมขนทัพขุนพล ลุยเมืองร้อยเกาะในวันที่ 24 ก.ย. เปิดตัว “7 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.” พร้อมประกาศ “รวมพลังชาวสุราษฎร์ฯ หนุนประชาธิปัตย์ยกทีมได้อีกครั้งหนึ่ง”
โดยนอกเหนือจาก 6 คนเดิม ทั้ง ภานุ ศรีบุศยกาญจน์ วิวรรธน์ นิลวัชรมณี วชิราภรณ์ กาญจนะ สมชาติ ประดิษฐพร สินิตย์ เลิศไกร ธีรภัทร พริ้งศุลกะ แล้วยังมี ตวงทอง ประดิษฐพร ที่จะลงชิงในอีกเขตที่เพิ่มขึ้นมา
ย้อนกลับไปในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 สนามเลือกตั้งสุราษฎร์ฯ มีส.ส.ทั้งหมด 6 คน โดยนอกเหนือจาก จ.พังงา และ จ.สมุทรสงครามที่มี ส.ส.จังหวัดละ 1 คนแล้ว “สนามเมืองร้อยเกาะ” ถือเป็นจังหวัดเดียวที่ ปชป.สามารถปักธงได้ “ยกจังหวัด”
“ศึกในครั้งนั้น” มีการวิเคราะห์ไปที่เหตุและปัจจัยที่ทำให้ ปชป.ปักธงได้ยกจังหวัด ประการแรก แบรนด์ ปชป.และแบรนด์บัญญัติผู้มากบารมีในจังหวัด ยังขายได้ ณ เวลานั้น
ประการที่สอง แบรนด์คู่แข่งโดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ แม้เวลานั้นจะชูสโลแกน “เลือกความสงบจบที่ลุงตู่” ทว่า ด้วยกลเกมการเมืองในจังหวัด บวกตัว “ผู้สมัคร” อาจยังมีแต้มเรื่องความ “ใกล้ชิด-ติดพื้นที่” ที่เป็นรอง ปชป.อยู่หลายช่วงตัว
ประการที่สาม คือ “กระแสโหวตสั่งสอน” พรรคการเมือง หรือบางกลุ่มการเมือง โดยเฉพาะแกนนำพรรคผิดคำพูดที่เคยให้ไว้กับประชาชน บวกความไม่พอใจแกนนำที่สวมบท “ลอยตัว” ประเด็นปัญหาความเดือดร้อนประชาชน โดยเฉพาะราคาพืชผลเกษตร อย่างยางพารา และปาล์ม ที่ช่วงหนึ่งเกิดวาทกรรม “ยาง 3 โลร้อย” สะท้อนภาพชัดจากผลการเลือกตั้งที่ออกมา บางเขตเกิดปรากฎการณ์ “แพ้คาบ้าน” จุดนี้เองที่อาจทำให้ผลเลือกตั้งรอบที่แล้ว ผลคะแนนเทมาที่ฝั่ง ปชป.ยกจังหวัด
เมื่อบริบทการเมืองเปลี่ยนไป มาถึง “สนามเลือกตั้งท้องถิ่น” โดยเฉพาะศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ปรากฎว่า “กำนันศักดิ์” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว ซึ่งเวลานั้นมีฐานเสียงพลังประชารัฐสนับสนุน สามารถเอาชนะ ชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.หลายสมัย จากประชาธิปัตย์ ด้วยคะแนนทิ้งห่างกว่า 7 หมื่น
ฉะนั้น ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น “กำนันศักดิ์” ซึ่งมีฐานเสียงการเมืองท้องถิ่นมาเป็นระยะเวลานาน และยามนี้ยังเปิดตัวภายใต้ชายคา “รวมไทยสร้างชาติ” (รสช.) จึงหมายมั่นปั้นทีม“คนรักสุราษฎร์” ลงสู้ศึกตีเมือง ค่ายคู่แข่ง
ไม่ว่าจะเป็น “แจง” อนงค์นาถ จ่าแก้ว ลูกสาวกำนันศักดิ์ ที่จะลงสู้ศึกในเขต อ.ไชยา ชนกับ “ส.ส.เชน” ธีรภัทร พริ้งศุลกะ จากค่าย ปชป.
นอกจากนี้ ยังมี สจ.ธานินท์ นวลวัฒน์ สจ.เขตกาญจนดิษฐ์ ที่จะลงเขตกาญจนดิษฐ์ ชนกับ ตวงทอง ประดิษฐพร จากค่ายประชาธิปัตย์ ซึ่งเปิดตัวลงชิงในเขตเดียวกัน
รวมถึง “สจ.ตาเล็ก” โรจน์พิศาล อินทรักษ์ อดีต สจ. ซึ่งจะลงเขตนาสาร-เวียงสระ ชนกับ “ส.ส.จ๋า” วชิราภรณ์ กาญจนะ ลูกสาวชุมพล-โสภา กาญจนะ อดีต ส.ส.หลายสมัย ส่วน “ว่าที่ผู้สมัคร” เมืองร้อยเกาะที่เหลือ รทสช.“ชิงเกมตัดหน้า” เตรียมเปิดตัวก่อนค่ายคู่แข่งในวันที่ 22 ก.ย.นี้
(ภาพจาก:เฟซบุ๊ค "กำนันพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว - คนรักสุราษฎร์" )
ศึกรอบนี้ นอกจากฐานเสียงท้องถิ่นที่กำนันศักดิ์มีอยู่ ต้องจับตาไปยังแรงหนุนจากกลุ่ม กปปส. หลังบรรดาแกนนำพาเหรดเสริมทัพรทสช.หวังเจาะจุดยุทธศาสตร์พรรคคู่แข่ง โดยสนามเมืองร้อยเกาะ ยังถือเป็นเป็นสนามบ้านเกิดของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ซึ่งรอบที่แล้วพ่ายรวด
ยามนี้ส่ง “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ลูกเลี้ยงนั่งเลขารทสช. ซึ่งต้องจับตาว่าตัว “สุเทพ” ที่อยู่หลังฉากจะออกมาสู่หน้าฉากหรือจะเลือกเล่นหน้าไหนในสนามบ้านเกิด
จากนี้ต้องจับตา “สนามเมืองร้อยเกาะ” อันเปรียบเสมือนเป็น “ไข่แดง” ของพรรคค่าย ปชป.รอบนี้อาจต้องเจอศึกหนัก ที่ไม่ได้มีแค่ รทสช. อันเป็นคู่แข่งสำคัญ หากแต่ยังมีหลากหลายพรรคการเมือง ที่พยายามเจาะจุดยุทธศาสตร์ตีเมืองขึ้นเช่นเดียวกัน
เชื่อได้เลยว่า ยิ่งสัญญาณเลือกตั้งใกล้เข้ามามากเท่าไร กลเกมการเมือง ภาพการชิงไหวชิงพริบสนามเมืองร้อยเกาะ ร้อนแรงไม่แพ้พื้นที่อื่นแน่นอน!!