“ก้าวไกล” เผยอนาคตร่างฯสุราก้าวหน้ายังไม่แน่นอน ขอประชาชนจับตา-กดดัน
ส.ส. ก้าวไกล ร่วมสัมนา เบื้องหลังผ่านร่างฯ “สุราก้าวหน้า” วาระแรก เปิดไทม์ไลน์หวังมีผลหลัง พ.ค. 2566 หากไม่ยุบสภาหรือคว่ำร่างฯ ไปก่อน “เท่าพิภพ” หวั่นปัจจัยภายนอกเข้าแทรก
24 ก.ย.2565 นาย เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กรุงเทพ พรรคก้าวไกล, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ นายคริส โปตระนันทน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ร่วมวงสัมนา “โอกาสของการพัฒนาธุรกิจสุราขนาดกลางและขนาดเล็ก” ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฏร พูดคุยถึงความคืบหน้าล่าสุด ของการจัดทำร่างแก้ไข พ.ร.บ. สรรพสามิต หรือกฎหมาย “สุราก้าวหน้า” หลังจากผ่านวาระที่หนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรในเดือนมิถุนายน และผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการแล้วเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา
โดย นายเท่าพิภพ ในฐานะผู้เสนอกฎหมาย และกรรมาธิการฯ ได้เล่าถึงเบื้องหลังของการโหวตร่างกฎหมายผ่านวาระที่ 1 ระบุว่ากฎหมายสุราก้าวหน้าได้รับเสียงสนับสนุนเกินครึ่งสภาได้ด้วยทั้งความร่วมแรงร่วมใจของภาคประชาชนทุกคน และการที่ ส.ส. จากต่างพรรคการเมืองต่างได้รับฟังเสียงจากประชาชนในพื้นที่มาและตัดสินใจตามเสียงสะท้อนจากประชาชน
ที่ผ่านมาแม้การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการจะมีอุปสรรค จากการถกเถียงด้วยเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ จนการพิจารณาในรายละเอียดของกฎหมายจริงๆ เกิดขึ้นได้ล่าช้า แต่สมาชิกกรรมาธิการก็ได้ตกผลึกร่วมกันในระดับหนึ่งจากการถกเถียง นำไปสู่การแก้ไขบ้างตามความเห็นของกรมสรรพสามิตในฐานะเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และการเพิ่มเติมให้มีข้อกำหนดเพื่อจำกัดปริมาณสุราที่ทำเพื่อบริโภคเองในครัวเรือน แต่โดยภาพรวมแล้วถือว่ายังคงเจตนารมณ์ของกฎหมายไว้อยู่
ในส่วนของนายคริส ในฐานะกรรมาธิการฯ ได้เล่าถึงบรรยากาศในการพิจารณาของชั้นกรรมาธิการในวาระที่ 2 โดยระบุว่าการประชุมในช่วงแรกๆ นั้น มีการยกข้อถกเถียงขึ้นมาหลายส่วน ซึ่งล้วนเป็นเรื่องเก่าๆ ที่มีการถกเถียงกันมานานด้วยความไม่เข้าใจ เช่น ข้อถกเถียงว่าการเปิดเสรีจะทำให้มีการผลิตสุราออกมามอมเมาเยาวชนมากขึ้น หรือจะทำให้เกิดปัญหาการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัย ฯลฯ
ซึ่งตนและเท่าพิภพ ในฐานะกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล ได้ยืนยันในเรื่องนี้ไปว่ากฎหมายสุราก้าวหน้า เป็นคนละเรื่องกับการควบคุมคุณภาพหรือความปลอดภัย เพราะการทำสุราออกจำหน่ายนั้นอย่างไรก็ต้องจดแจ้งขออนุญาตก่อน และอยู่ภายใต้การควบคุมคุณภาพอยู่เช่นเดิม เพียงแต่ไม่ให้เอาปัจจัยเรื่องกำลังการผลิตมาจำกัดเท่านั้น
ทางด้าน น.ส.ศิริกัญญา ได้เผยถึงไทม์ไลน์ที่เป็นไปได้ของร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า โดยระบุว่ากรณีที่ดีที่สุด คือการที่ร่างของกรรมาธิการผ่านในวาระ 2 และ 3 จากนั้นจึงเข้าสู่การพิจารณาของ ส.ว. ซึ่งหากมีการแก้ไขหรือไม่เห็นด้วย ร่างฯ ก็จะถูกส่งกลับมาที่ ส.ส. ซึ่งสามารถยืนยันในร่างฯ เดิม ไม่เห็นด้วยกับ ส.ว. ได้ หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี กฎหมายน่าจะบังคับใช้ได้อย่างช้าในเดือนมกราคม 2565 และเนื่องจากกรมสรรพสามิตขอเวลา 180 วันในการออกกฎหมายลูกมากำกับดูแลในรายละเอียดหลังร่างฯ ถูกบังคับใช้ จะทำให้อย่างช้าที่สุดภายในเดือนพฤษภาคม 2566 นโยบายสุราก้าวหน้าจึงจะเริ่มต้นได้อย่างเต็มรูปแบบ
แต่หากเป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุด ก็คือการไม่ผ่านวาระที่ 2 และ 3 หรือหากการยุบสภาเกิดขึ้น จะส่งผลให้กฎหมายที่พิจารณาอยู่ในสภาชุดปัจจุบันทั้งหมดที่เสนอโดยรัฐบาลหรือ ส.ส. ซึ่งรวมถึงกฎหมายสุราก้าวหน้าด้วยตกไปทันที และต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดในสภาชุดต่อไป
ในการนี้ เท่าพิภพระบุว่าแม้อนาคตจะยังมีความไม่แน่นอน และอาจจะเกิดความพยายามแทรกแซงจากปัจจัยภายนอกที่จะทำให้กฎหมายดังกล่าวตกไปหรือถูกบิดเบือนไป แต่ ส.ส. ของพรรคก้าวไกลจะทำให้ดีที่สุดในการผลักดันกฎหมายฉบับนี้ออกมาให้ได้ และขอให้ประชาชนร่วมกับจับตาและกดดันการทำงานของสภาต่อไป
“การพูดคุยในวงประชุมกรรมาธิการฯ ช่วงแรกๆ เราต้องเจอกับข้อถกเถียงเดิมๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นวิธีคิดแบบมีอคติต่อสุราที่เราเจอได้ทุกวัน กับบางส่วนที่ทำให้เราอาจมองได้ว่ามีการ ‘รับงาน’ มาหรือไม่ แต่สุดท้ายกรรมาธิการเราก็พอที่จะหาฉันทามติร่วมกันได้ในระดับหนึ่ง ต้องยอมรับว่าอนาคตของสุราก้าวหน้ายังไม่แน่นอน แต่พวกเราจะทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด” เท่าพิภพกล่าว