“ประยุทธ์” คัมแบ็ค “นายกฯ” เข้า ทำเนียบฯ 3ต.ค.นี้
“ทีมกฎหมาย” วอน ทุกฝ่ายเคารพ คำวินิจฉัย “ศาลรัฐธรรมนูญ” ยังเป็น นายกฯ ได้ต่อ ถึงปี 68 ชี้ ช่วงถูกพักไม่ได้นับรวม ไม่ห่วงม็อบชุมนุมกดดัน ด้าน “ประยุทธ์” เข้าทำเนียบฯ ลุยงานต่อ 3 ต.ค.นี้
ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ พล.ต. วิระ โรจนวาศ ที่ปรึกษาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับฟังการอ่านคำวินิจฉัยคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 17 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า
ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่ นั้นว่า จากคำพิพากษาของศาลพล.อ.ประยุทธ์ยังดำรงตำแหน่งไม่ครบ 8 ปี และท่านยังสามารถปฏิบัติหน้าที่นายกฯต่อได้
อย่างไรก็ตามไม่เป็นห่วงกระแสจากเรื่องดังกล่าว เพราะทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้อธิบายความเห็นแล้วว่าอย่างไรเหตุผลอย่างไร ก็ควรรับฟังและจะต้องเคารพในคำพิพากษาของศาล เพราะคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กรด้วย ดังนั้นก็ขอให้ดำเนินการตามนั้น
เมื่อถามว่าหากเริ่มนับวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2560 หมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์สามารถดำรงตำแหน่งได้จนถึงปี 2568 ใช่หรือไม่หากลงเลือกตั้งต่อ พล.ต.วิระ กล่าวว่า ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นเพราะศาลบอกว่านับตั้งแต่รับธรรมนูญประกาศใช้วันที่ 6 เม.ย.2560 แล้วก็ต้องนับไปอีก 8 ปี ซึ่งก็จะครบในปี 2568
แต่เวลาไหนที่ท่านไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ หรือช่วงพักก็คงไม่ได้นับรวม ส่วนการลงเลือกตั้งแต่ไม่สามารถอยู่ได้ครบเทอมของ พล.อ.ประยุทธ์นั้นจะมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่นั้น ไม่ทราบเหมือนกัน
เมื่อถามว่าจากคำวินิจฉัยพอใจหรือไม่ พล.ต.วิระ กล่าวว่า เป็นเรื่องดุลยพินิจของศาล เราก็พยายามทำดีที่สุด ในการแก้ไขข้อกล่าวหาตามที่เราอธิบาย ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่ศาลจะพิจารณา เราก็ต้องเคารพในคำวินิจฉัยและคำตัดสินของศาล ซึ่งควรจะต้องถือว่าสิ้นสุดคำครหากับพล.อ.ประยุทธ์แล้ว
ทั้งนี้ขอให้ทุกคนรับฟังคำพิพากษาของศาล และขอให้เคารพคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญว่าท่านยังสามารถเป็นนายกฯต่อได้จนกว่าจะครบ 8 ปีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
อย่างไรก็ตามสถานการณ์การชุมนุมหลังจากนี้ ไม่น่าต้องห่วง เพราะเจ้าหน้าที่มีวิธีการดำเนินการอยู่แล้ว
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังจาก ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ไปต่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ครบ 8 ปี เริ่มนับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่ ปี 2560 คือ เมื่อรัฐธรรมนูญ มีผลบังคับใช้วันที่ 6 เม.ย.2560
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ของสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แจ้งผ่านกลุ่มไลน์สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ให้ทราบถึงวาระงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยจะเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีในวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2565
ทั้งนี้ วาระงานประจำวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2565 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีดังนี้
เวลา 13.30 น. นายอาร์มัน อิสเซตอฟ (H.E. Mr. Arman Issetov) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคาซัคสถานประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
เวลา 14.30 น. นางสาวแอนเจลา เจน แม็กดอนัลด์ (H.E. Ms. Angela Jane Macdonald) เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังแจ้งหมายเหตุไว้ด้วยว่า ในวันดังกล่าว พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและติดตามการดำเนินการโครงการด้านทรัพยากรน้ำ ณ จังหวัดชัยนาท และ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา