“ก้าวไกล” หนุน “โน้ส อุดม” เตือน “ประยุทธ์” ปรามลูกหาบดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2565 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีแฮชแท็ก (Hashtag) #เดี่ยว13 ของ “โน้ส” อุดม แต้พานิช นักแสดงชื่อดังที่บางช่วงบางตอนวิจารณ์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ1 ว่า นายอุดม มีสิทธิ เสรีภาพ การวิจารณ์ เชื่อว่าผู้ฟังก็มีวิจารณญาณ นายอุดมวิจารณ์ทุกรัฐบาล ถ้าใครชื่นชอบรัฐบาลนี้ อยากให้ฟังอย่างอดทน อย่าใช้การกลั่นแกล้ง หรือไปดำเนินคดี จะทำให้รัฐบาลดูแย่ลง ที่จริงตนยังไม่ได้ดูเดี่ยว13 เดี๋ยวจะกลับบ้านไปดูด้วย

“เตือนว่า ถ้าจะไปไล่จับ คนที่วิจารณ์รัฐบาลเราคงมีคุกไม่พอหรอก หน้าที่รัฐบาลคือรับฟัง สิ่งที่หลายฝ่ายพยายามไปข่มขู่ ไปบอกคุณโน้สพูดแบบนี้  จะดำเนินคดี และร้องให้มีการตรวจสอบ มันจะมีแต่ทำให้รัฐบาลดูแย่ลง แถมเป็นการซ้ำเติมรัฐบาลด้วย มีอินฟลูเอนเซอร์ ออกมาวิจารณ์รัฐบาลหลายครั้ง แล้วโดนข่มขู่ บางครั้งหนักเข้าคนของพล.อ.ประยุทธ์ เอง ที่ไปดำเนินคดีร้องทุกข์กล่าวโทษตามสน. ผู้นำที่ดีควรจะห้ามปราม แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันอยากจะทำหน้าที่นายกฯ การปล่อยให้มีการดำเนินคดี คนที่ออกมาวิจารณ์รัฐบาล ไม่ใช่สิ่งที่ฉลาดเลย ไม่ใช่สิ่งที่คนที่มีเซลล์สมองมากกว่า84,000 เซลล์พึงกระทำ” นายรังสิมันต์ กล่าว

วันเดียวกัน นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้เช่นกันว่า เป็นเรื่องปกติ ของประเทศประชาธิปไตย ถ้าได้ติดตามผลงานเดี่ยวของ “โน๊ส อุดม” ตั้งแต่เดี่ยว 1-13 นายอุดมจะวิจารณ์ทำให้มันเป็นเรื่องตลก หรือเรื่องที่รัฐบาลไหนทำผิดพลาด ก็ตำหนิหมด ไม่ว่าจะยุคของนายทักษิณ ชินวัตร ยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้ก็โดนเหมือนกัน ไม่ได้เลือกที่รัก มักที่ชัง เชื่อว่า ถ้ามีเดี่ยว 14 อีก ไม่ว่าต่อไปใครเป็นรัฐบาล เพื่อไทย ก้าวไกล หรือพรรคอื่น ๆ ก็จะถูกหยิบยกเรื่องราวที่คนไทยสนใจขึ้นมา ยิ่งช่วงนี้ การเมืองชิงพื้นที่หน้าข่าวค่อนข้างเยอะ ก่อนหน้านี้ น.ส.ดนุภา คณาธีรกุล หรือ “มิลลิ” นักร้องชื่อดัง ก็โดนกระเเส และพอมาเป็นนายอุดม มันก็เป็นที่สนใจว่า รัฐบาลโดนบุคคลสาธารณะ ออกมาตำหนิ ถ้ามองกันจริง รัฐบาลชุดนี้ โดนบุคคลสาธารณะ ตำหนิมานานแล้ว พอมีบุคคลเเม่เหล็กคนติดตามเยอะอย่างนายอุดมมาพูด เลยกลายเป็นประเด็นโดดเด่น พอตำหนิแบบเป็นเรื่องโจ๊ก คนเข้าถึง เข้าใจ และย่อยง่าย ทำให้เกิดประเด็นที่ทำให้คนพูดถึงในวงกว้าง ซึ่งถือว่าปกติ

เมื่อถามว่า การวิจารณ์ ของ “โน้ส อุดม” จะส่งผลต่อคะแนนนิยมรัฐบาล โดยเฉพาะกระเเสคนเมือง ช่วงที่ใกล้มีการเลือกตั้งหรือไม่  นายกรุณพล กล่าวว่า กระแสในเมืองของรัฐบาลหายไปนานแล้ว พนักงานประจำรายได้ก็น้อยลง หรืออาจจะเท่าเดิมแต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หรือกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่อาจจะมีรายได้น้อย อาทิ หลายคนที่เคยเชียร์ช่วงแรก ๆ ก่อนรัฐประหารทุกคนก็กลัวม็อบ เพราะรู้สึกปิดถนนแล้วค้าขายลำบาก และก็อาจดีใจที่ทหารมารัฐประหาร แต่วันนี้ทุกคนรู้แล้วว่า ความคิดแบบนั้นมันผิด  จากผลการบริหารงานผิดพลาดของรัฐบาล

“ฝากถึงคนในรัฐบาล ที่จ้องจะหาทัวร์ หาคดีมาลงใส่พี่โน้สว่า การแสดงความคิดเห็นของประชาชนในประเทศ เป็นสิทธิเสรีภาพ ควรรับคำตำหนิเป็นกระจกสะท้อนปรับปรุงตัว ไม่ใช่อ่อนไหวยิ่งกว่าน้ำ คุณกล้าที่จะยึดอำนาจมา แค่ถูกประชาชนคนเดียวตำหนิ ก็อ่อนไหว ขนาดอาจออกมาตอบโต้ดำเนินคดีเขา ก็ไม่ต้องมาเป็นรัฐบาลแล้ว  เสียงประชาชน คือเสียงที่ต้องการให้ผู้มีอำนาจปรับปรุงตัว หันมามองปัญหาที่ประชาชนได้รับ ไม่ใช่เสียงให้ผู้มีอำนาจ เอามีด เอากฎหมาย เอากำลังมาห้ำหั่นกับคนที่คอยตักเตือน” นายกรุณพล กล่าว

นายกรุณพล กล่าวอีกว่า รัฐบาลอยากจะลากไปถึงเอเปก และอาจมีการยุบสภาฯ หวังใช้การประชุมเอเปกสร้างผลงานกู้หน้า หรือใช้ในการหาเสียง จากที่ก่อนหน้านี้ไม่มีผลงานอะไรเลย ทั้งความผิดพลาดโควิด-19 น้ำท่วม และเหตการณ์กราดยิง ปัญหายาเสพติด เป็นต้น แต่ต้องดูด้วย ว่าจะมีผู้นำสักกี่ประเทศที่จะมาร่วม อาทิ ทูตฯรัสเซีย ก็บอกแล้วว่า  วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ยังไม่ได้รับปากว่าจะมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ไม่มา และยังไม่รู้ว่าประเทศใหญ่ ๆ จะส่งใครมา หลายปนะเทศในสหประชาชาติเอง ก็ลงนามไม่รับรองการรวมแคว้นของรัสเซีย ซึ่งนั่นหมายความว่าเป็นแรงกระเพื่อมในระดับโลกแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันที่ผู้นำเหล่านั้นต้องมาเจอกัน ถึงวันนั้นจะร่วมประชุมกันหรือไม่ หรือเกิดการแคนเซิลไม่มาหรือเปล่า นี่เป็นอีกส่วนที่รัฐบาลใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ว่าถ้าหากไม่มา ก็ไม่มีผลงาน และจะอยู่ต่อให้ฝ่ายค้านรุมขุดความเสียหายหรือไม่ก็ต้องวัดกัน