“อนุทิน” เผยข้อห่วงใยพรรคต่าง ๆ มีในร่าง กม.กัญชาฯแล้ว กมธ.ชงเข้ารอบใหม่
“อนุทิน” เผยข้อห่วงใยพรรคการเมืองต่าง ๆ เป็นสิ่งที่มีในร่างกฎหมาย “กัญชาฯ” อยู่แล้ว สะท้อนปัดตกเข้าสภาทั้งที่ยังไม่อ่านเนื้อหา ทำประชาชนเสียผลประโยชน์ เผย กมธ.ชงเข้ารอบใหม่
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … เข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไปบรรจุในวาระแล้ว หลังได้รับการเสนอแนะ แนะนำ และข้อห่วงใยต่างๆ จากพรรคที่ไม่รับหลักการให้บรรจุในวาระ 2 ก่อนหน้านี้ ซึ่ง กมธ.วิสามัญฯ ชี้แจงว่า ข้อที่แนะนำกลับมานั้นอยู่ในร่าง พ.ร.บ.นี้อยู่แล้ว แสดงว่าการที่สภาไม่ยอมให้บรรจุก่อนหน้านี้ ทั้งที่ยังไม่ได้อ่านร่างฯ ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ จึงถือว่าร่าง พ.ร.บ.นี้มีความสมบูรณ์ มี กมธ.ฝ่ายค้าน ฝ้ายรัฐบาล มีการเพิ่มจาก 45 มาตรา เป็น 95 มาตรา และเมื่อถูกบรรจุแล้วก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับ แต่ถ้าไม่รับ ก็ต้องไปชี้แจงกับประชาชน ไม่ใช่ชี้มาที่เจ้าของนโยบายซึ่งได้ทำตามสัญญาที่ให้กับประชาชนแล้วในการปลดจากยาเสพติด ใช้เพื่อการแพทย์ ไม่มีสันทนาการ และมีกฎระเบียบควบคุมข้อห่วงใยทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่เป็นตัวแทนของประชาชนควรสนับสนุนให้กฎหมายออกมาโดยเร็ว
เมื่อถามว่า ขณะนี้กฎหมายหลายฉบับที่เสนอเข้าไป จึงกังวลว่าร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ อาจจะพิจารณาไม่ทัน หากไม่ทันจะทำให้มีปัญหายาเสพติดตามมา นายอนุทิน กล่าวว่า กัญชาถูกปลดออกจากยาเสพติดแล้ว ก็ต้องไม่มองว่าเป็นยาเสพติด และไม่ต้องถามว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด
ส่วนข้อกังวลว่า จะออกไม่ทันรัฐบาลนี้นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พ้นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข ของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว ส่วนมีพรรคอะไรขวางอยู่ก็ต้องไปตอบประชาชน ซึ่งผู้มีอำนาจที่จะบรรจุให้วาระนี้เข้าสู่การพิจารณา ถ้าห่วงใยความกังวลของประชาชน ก็สามารถเร่งบรรจุเข้าไปได้
เมื่อถามอีกว่า เนื่องจากปัจจุบันมีปัญหาความรุนแรงที่มีสารเสพติดเป็นตัวกระตุ้น จึงมีข้อกังวลว่ากัญชาจะเป็นตัวต่อไปที่กระตุ้นให้ปัญหามากขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีการศึกษาทางการแพทย์ใดๆ ที่พบว่าคนที่ใช้กัญชาทางการแพทย์ ใช้ถูกวิธีตามกฎหมายจะมีอาการคลุ้มคลั่ง ก่อเหตุรุนแรง ในทางตรงกันข้ามฤทธิ์ของกัญชาทำให้เกิดความสงบ จึงอยากให้มีการหาข้อมูลทางทางการแพทย์ เพราะหากตนซึ่งเป็นฝ่ายการเมืองพูด อาจถูกมองว่ากำลังพยายามโน้มน้าวสังคม เข้าข้างตัวเอง อย่างไรก็ตาม แม้กรณีคนคนเสพที่ก่อเหตุรุนแรง ก็ต้องวิเคราะห์ให้ลึกว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเป็นฤทธิ์ของสารเสพติดชนิดอื่นหรือไม่ ที่เป็นตัวกระตุ้น