โพล เผย ปชช. ค้านแนวคิด ผู้เสพยาฯ คือผู้ป่วย ชี้ นโยบายรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ
“นิด้าโพล” เผย ผลสำรวจความคิดเห็น ปชช. ส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วย ผู้เสพยาเสพติด คือผู้ป่วย ชี้ ควรมีบทลงโทษ ป้องกันคนหน้าใหม่ จนผันตัวเป็นผู้ขาย มองเกณฑ์ครอบครอง ยาบ้า แค่ 1 เม็ด ถึงจะเป็นผู้เสพ ชี้ ของหาซื้อง่าย ราคาถูก เหตุ นโยบายรัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ จนท.หย่อนยาน
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง ผู้เสพคือผู้ป่วยเกี่ยวกับประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ยึดหลัก ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย จากการสำรวจเมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของยาบ้าในปัจจุบัน พบว่าตัวอย่าง ร้อยละ 48.63 ระบุว่า ยาบ้าหาซื้อได้ง่าย รองลงมา ร้อยละ 48.02 ระบุว่า กฎหมายยาเสพติดอ่อนแอเกินไป ร้อยละ 47.86 ระบุว่า ยาบ้ามีราคาถูก ร้อยละ 31.83 ระบุว่า มาตรการการปราบปรามยาเสพติดไม่มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 30.92 ระบุว่า ผู้บังคับใช้กฎหมายหย่อนยานในการดำเนินการ ร้อยละ 26.56 ระบุว่า สภาพทางสังคมทำให้คนเสพยาเพิ่มขึ้น ร้อยละ26.49 ระบุว่า นโยบายของรัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 25.42 ระบุว่า มาตรการการป้องกันยาเสพติดไม่มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 21.30 ระบุว่า ผู้เสพไม่มีจิตสำนึกเอง และร้อยละ20.31 ระบุว่า สภาพทางเศรษฐกิจทำให้คนเสพยาเพิ่มขึ้น
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ยึดหลัก ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย พบว่าตัวอย่าง ร้อยละ 50.15 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะ ควรมีบทลงโทษเพื่อป้องกันผู้เสพหน้าใหม่ผู้เสพอาจกลายเป็นผู้ขายเนื่องจากไม่เกรงกลัวบทลงโทษตามกฎหมาย
ขณะที่บางส่วนระบุว่า ผู้เสพไม่มีความตั้งใจที่จะเข้ารับการบำบัดตั้งแต่ต้นอาจกลับมาติดยาเสพติดซ้ำ รองลงมา ร้อยละ 20.31 ระบุว่า เห็นด้วยมาก เพราะ ผู้เสพอาจเป็นผู้หลงผิดจึงควรได้รับการบำบัดรักษา เป็นการให้โอกาสในการปรับตัวกลับเข้าสู่สังคม และผู้เสพที่เป็นเยาวชนมีจำนวนมากควรใช้วิธีการบำบัดแทนการจำคุก ร้อยละ 15.57 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะ ผู้เสพที่ต้องการเลิกยาเสพติดสามารถเข้าสู่กระบวนการบำบัดได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี
ขณะที่บางส่วนระบุว่า การบำบัดเป็นการช่วยแก้ปัญหานักโทษล้นคุก ร้อยละ 13.89 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ ผู้เสพควรได้รับบทลงโทษตามกฎหมาย หากไม่มีบทลงโทษอาจทำให้มีผู้เสพเพิ่มมากขึ้น และควรแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ การนำผู้เสพมาบำบัดอาจไม่ช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดในสังคม และร้อยละ 0.08 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อปริมาณการครอบครองยาบ้าเพื่อเสพที่จะเข้ากับหลักการผู้เสพ คือ ผู้ป่วย พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 34.96 ระบุว่า ยืนยันว่าไม่เห็นด้วย/ไม่ค่อยเห็นด้วยกับหลักการผู้เสพ คือ ผู้ป่วย รองลงมา ร้อยละ 30.76 ระบุว่า ไม่เกิน 1 เม็ด ร้อยละ 16.11 ระบุว่าประมาณ 2-3 เม็ด ร้อยละ 7.33 ระบุว่า ประมาณ 4-6 เม็ด ร้อยละ 3.59 ระบุว่า ประมาณ 10-12 เม็ด ร้อยละ 2.75 ระบุว่า ประมาณ
7-9 เม็ด และไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ในสัดส่วนที่เท่ากัน และร้อยละ 1.75 ระบุว่า ประมาณ13-15 เม็ด ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการรู้จักคนเสพหรือเคยเสพยาเสพติด พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ56.11 ระบุว่า ไม่รู้จัก ขณะที่ ร้อยละ 43.89 ระบุว่า รู้จัก