"หมอเรวัต" เผย "เสรีรวมไทย" นัดประชุมใหญ่24ตุลา เปิดรับ "พรรคอื่น" ควบรวม

"หมอเรวัต" เผย "เสรีรวมไทย" นัดประชุมใหญ่24ตุลา เปิดรับ "พรรคอื่น" ควบรวม

พรรคเสรีรวมไทย จัดประชุมใหญ่ เตรียมพร้อมเลือกตั้ง 24ตุลา พร้อมเปิดนโยบาย-ยุทธศาสตร์เลือกตั้ง "หมอเรวัต" ยอมรับมีพรรคน้องใหม่ เจรจาให้ไปควบรวม

        นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า วันที่ 24 ตุลาคม พรรคจัดประชุมใหญ่สามัญเพื่อเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เบื้องต้นจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 2 ตำแหน่ง และนำเสนอนโยบายยุทธศาสตร์ที่จะใช้ในการสู้ศึกเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดีส่วนตัวมีประเด็นทางด้านนโยบายสาธารณสุข ที่จะนำเสนอเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง คือ การให้มีศูนย์ดูแล ฟื้นฟู ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และเพิ่มการตรวจคัดกรองบุคคลที่มีความเสี่ยงเป็นเบาหวาน ความดัน ซึ่งโรคดังกล่าวคือต้นเหตุที่จะทำไปสู่โรคร้ายแรงในอนาคตได้  รวมถึงการมีศูนย์บริการและบริบาลผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ กระจายทั่วประเทศ โดยเฉพาะ กทม. เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ  พร้อมกับยกระดับบัตรทองเป็นบัตรทองพลัส เพื่อเพิ่มคุณภาพและสิทธิการรักษา

 

           นพ.เรวัต กล่าวด้วยว่า นอกจากนั้นในประเด็นนโยบายที่ขับเคลื่อนผ่านประเด็นทางการเมืองปัจจุบันที่มีผลกระทบต่อประชาชนจะเสนอให้ทบทวน โดยเฉพาะเรื่องกัญชา ทั้งนี้ตนสนับสนุนให้ใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์ เพื่อรักษาโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยา แต่ไม่สนับสนุนให้ใช้เพื่อการทั่วไปเพราะกัญชานั้นก่อให้เกิดโทษทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น หัวใจวาย ไตพัง

           นพ.เรวัต กล่าวยืนยันว่าพรรคเสรีรวมไทยจะไม่ไปควบรวมกับพรรคการเมืองใด แต่ไม่ปิดกั้นพรรคการเมืองอื่นที่จะเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยที่ผ่านมามีหลายพรรคที่ติดต่อเข้ามา อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เคยหารือถึงการไปรวมกับพรรคการเมืองอื่น ซึ่งตนตอบไปว่าพรรคที่มาคุยยังเป็นพรรคตั้งใหม่เหมือนคนไม่มีบ้าน ไม่ผ่านการเลือกตั้ง ไม่มีส.ส.ในสภาฯ แม้เขาจะเป็นนักการเมืองที่มีคนรู้จัก ดังนั้นโดยตรรกะแล้วจะไปรวมทำไม

           “พรรคเสรีรวมไทยไม่ยุบพรรคแน่นอน รวมถึงเอาพรรคไปรวมกับพรรคอื่นด้วย แต่หากใครจะมาร่วมงานกับพรรค โดยยึดพรรคเสรีรวมไทยเป็นหลักสามารถทำได้ และพรรคเสรีรวมไทยไม่ปิดกั้น อีกทั้งไม่มีเงื่อนไขใดที่จะทำงานร่วมกันไม่ได้” นพ.เรวัต กล่าว