วีรกรรม "เค ร้อยล้าน" ยกระดับรุนแรง ตบ "ป้าเป้า"ล็อคคอ "ธนาธร" อาการจิตเวช?

กลับมาเป็นข่าวใหญ่โตอีกครั้ง สำหรับ นายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา หรือ เค ร้อยล้าน  นักธุรกิจชาวอินเดีย และเจ้าของร้านตัดสูทโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง หลังค่ำวานนี้ (23 ต.ค.) ได้บุกเข้าไปพบ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าคณะก้าวหน้า ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

แต่กระทบกระทั่งกับการ์ดที่รักษาความปลอดภัย "ธนาธร" จนทำให้เกิดเหตุการชุลมุลหลัง "เค ร้อยล้าน" ตะโกน "มีระเบิด" ทำให้คนในงานสัปดาห์หนังสือแตกตื่น และวิ่งหนีกันจ้าล่ะหวัน ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ลุมพินี เข้าระงับเหตุพร้อมควบคุมตัว เค ร้อย ล้าน สอบปากคำและแจ้งข้อหา ตามมาตรา 384 ผู้ใดแกล้ง บอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุ ให้ประชาชนตื่นตกใจ โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึง ข้อหาอื่นๆ

โดย "เค ร้อยล้าน" ย้ำว่า เข้าไปต่อว่าตักเตือนนายธนาธร ขณะแจกลายเซ็นอยู่ในงาน แต่ยังไม่ได้โดนตัวนายธนาธรแต่อย่างใด มีแต่ตนที่ถูกการ์ดของนายธนาธรรุมทำร้าย เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา และตนได้ให้การปฏิเสธทั้งหมด แต่ส่วนจะแจ้งความกลับคนที่มาทำร้ายตนหรือไม่นั้น ต้องรอเวลาเพื่อตัดสินใจอีกครั้ง

ขณะที่ ธนาธร เตรียมฟ้องร้องข้อหาทำร้ายร่างกายเพราะถูก "เค ร้อยล้าน" ล็อคคอทำให้หายใจไม่ออก พร้อมระบุว่า  ตอนนายเค ร้อยล้าน มาล็อกคอก็มีการตะโกนดังๆ ว่า “ผมมีระเบิดนะๆ” จนทำให้คนที่อยู่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเกิดความสับสนอลหม่าน ทุกคนก็กลัวหมด อย่าลืมว่าเพิ่งเกิดเหตุการณ์หนองบัวลำภูมาไม่นานดี เพราะฉะนั้นเกิดมีคนจะวางระเบิด ปากต่อปาก ตนเองไม่ได้เห็นด้วยตา 

“ผมยืนอยู่ที่บูธแต่ฟังจากคนจัดงานเกิดจากคนที่สับสนวุ่นวาย และทยอยกันวิ่งกรูกันไปหาทางออก ซึ่งหลายคนไม่ได้เห็นเหตุการณ์แต่ว่าพอเห็นคนวิ่งก็วิ่งตาม จึงเกิดความสับสนอลหม่านขึ้น นั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมมีอาการฟกช้ำนิดหน่อย ซึ่งเกิดจากความชุลมุนวุ่นวายและเกิดจากการล็อกคอและเสียดสีไปมาที่คอ” นายธนาธร กล่าว

หากย้อยดู ประวัติ เค ร้อยล้าน พบว่า ในอดีตถูกแจ้งข้อหาในลักษณะใกล้เคียงกับกรณีดังกล่าวด้วยกันหลายคดีด้วยกัน ตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหารเมื่อปี 2549  "เค ร้อยล้าน" ตกเป็นข่าวโด่งดัง หลังนำรถตัวเองมาจอด และพ่นสีสเปรย์ใส่รถ หน้าสำนักงานเลขานุการกองทัพบก โดยมีข้อความว่า "ทหารผู้ยิ่งใหญ่" ก่อนจะตะโกนว่า 

"ทหารทำดีมาก เราต้องสู้จนตาย แม้ว่าจะมีเงินเยอะ แต่ก็ไม่มีความสุข ทำดีแล้ว เราต้องสู้ต่อไป"

จากนั้น "เค ร้อยล้าน" เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี อ้างว่าถูกมือปืนขับรถยนต์ไล่ยิง อ้างสาเหตุว่าเพราะตนเองเป็นพยานให้กับ คตส. ในคดีทุจริตซื้อที่ดินโครงการบ้านเอื้ออาทรลาดกระบัง 

ปี 2562 "เค ร้อยล้าน" ได้ขับรถเบนซ์ รุ่น C350e สีดำ ติดสติกเกอร์รอบคันรถจอดหน้าห้างสรรพสินค้าย่านราชประสงค์ นำกรอบรูปมาวางไว้หน้ารถ และโปรยดอกไม้รอบรถยนต์ พร้อมกับนำงูเห่าออกมาปล่อยบนพื้นถนน 2 ตัว 

1 กุมภาพันธ์ 2565 – ขับรถหรูมาจอดกลางถนน บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมกับปล่อยงู และใช้อาวุธมีดพยายามทำร้ายตนเอง สร้างความตกใจประชาชนโดยรอบ

13 กุมภาพันธ์ 2565  คุ้มคลั่งก่อเหตุเอาสีราดตัวเองที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านปทุมวัน และ ไปยืนตะโกนโวยวายสนามบินสุวรรณภูมิโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก และเช็กอินที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จำนวน 2 ครั้ง โดยเป็นข้อความเชิงข่มขู่ ทั้งยังปล่อยภาพงูพิษ จำนวน 2 คลิป

24 กุมภาพันธ์ 2565  โดนจับที่มุมไบ ประเทศอินเดีย ต้องโทษจำคุก 3 เดือน ฐานสร้างความวุ่นวาย เข้าข่ายกระทำความผิดซ้ำซาก

10 พฤษภาคม 2565  เข้าไปทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้า วรวรรณ แซ่อั้ง หรือ "ป้าเป้า"หนึ่งในนักกิจกรรมการเมือง ในระหว่างร่วมทำกิจกรรมกับกลุ่ม DemHope  บริเวณสกายวอล์ค หน้าห้างมาบุญครอง จนถูกแจ้งควาทดำเนินคดี 

โดย "เค ร้อยล้าน" ยอมรับว่าอยู่ระหว่างกินยารักษาอาการทางจิตที่แพทย์จัดให้ แต่ปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้มีอาการทางจิตหรือบ้าตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมขอโทษป้าเป้า เพราะสำนึกได้ว่มเป็นผู้สูงอายุ

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่า พฤติกรรมในช่วงต้นๆของ "เค ร้อยล้าน" เป็นลักษณะข่มขู่ สร้างความตื่นตระหนก แต่ไม่เคยทำร้ายใครจนได้รับบาดเจ็บ ที่ผ่านมาจึงมีการแจ้งความ และบางกรณีก็ไม่มีผู้แจ้งความ ยกเว้นในปีนี้ เค -ร้อยล้าน เริ่มใช้ความรุนแรง ด้วยการทำร้ายร่างกาย "ป้าเป้า" จนนำไปสู่กรณี "ธนาธร"

อย่างไรก็ตาม  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า กรณีของ เค ร้อยล้าน ขณะนี้พนักงานสอบสวน รอผลตรวจสภาพจิตจากแพทย์ เพื่อยืนยันว่ามีอาการป่วยทางจิตเวชหรือไม่ แม้ว่า ก่อนหน้านี้ เค ร้อยล้าน จะเคยก่อเหตุคดีลักษณะนี้มาแล้วหลายพื้นที่  และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบประวัติการรักษาอาการทางจิตเวชในส่วนของ เค ร้อนล้าน ถือเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว

ดังนั้น การเอาผิดกับผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล 
กรณีที่ปล่อยปละละเลยอาจจะเป็นไปได้ยาก ยังให้ความมั่นใจว่า หลังจากคดีนี้ จำเป็นต้องมีการทบทวน ถอดบทเรียน กรณีผู้ที่ป่วยทางจิตเวชใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคม โดยมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางในอนาคตต่อไป