“เสี่ยด๊อยซ์” มือทำงาน “สันติ” แกนหลักการเมือง มุ้งมะขามหวาน
เลือกตั้งครั้งหน้า สันติ ก็ยังคงมี เสี่ยด๊อยซ์ เป็นขุนพลข้างกายคอยสนับสนุน และค่อนข้างการันตีว่าที่นั่งในเพชรบูรณ์ ไม่น่าจะมีปัญหา แต่สิ่งที่ส่อแววว่าจะมีปัญหาคือการตั้งเป้าของพล.อ.ประวิตร ที่หมายจะกวาดส.ส.ให้ได้ 150 ที่นั่ง ดูจะเป็นโจทย์สุดหิน
หนึ่งในขุมกำลังสำคัญของพลังประชารัฐ ที่ต้องร่วมกันแบกภาระหนักในการนำพาพรรคฝ่ากระแสที่ตกต่ำลงสนามเลือกตั้งในอีกไม่ช้า หนีไม่พ้นแม่บ้านพรรคอย่างสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค ที่มีความท้าทายรออยู่มากมาย
ท่ามกลางความไม่ชัดเจนของ 2 พี่น้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าตกลงจะไปต่อด้วยกัน หรือถึงคราวแยกทาง ต่างคนต่างไป
ปัจจัยภาพใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ 2ป. นี่เอง ที่คนเป็นแม่บ้านพรรคพลังประชารัฐ แทบจะไร้บทบาทในการกำหนดทิศทาง ทำได้เพียงรับบัญชาเท่านั้นว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร
ในทางกลับกัน เมื่อดูขุมกำลังระดับพื้นที่ของสันติ กับฐานที่มั่นในเพชรบูรณ์ เรียกว่าแน่นทุกระดับท้องถิ่น การเลือกตั้ง ปี62 หัวหน้ามุ้งเมืองมะขามหวานก็ไม่ทำเสียชื่อ นำปักธงกวาดส.ส.ยกจังหวัด ทั้ง 5 เขต ได้แก่ พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ เขต1 จักรัตน์ พั้วช่วย เขต2 วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ เขต3 สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เขต4 และ เอี่ยม ทองใจสด เขต5
โดยถ้านับสันติเป็นแกนนำกลุ่มที่อัดฉีดปัจจัยดูแลภาพรวมพื้นที่ เสี่ยด๊อยซ์ หรือ นายกฯด๊อยซ์ อัครเดช ทองใจสด นายกฯอบจ.เพชรบูรณ์ 6 สมัย ลูกชายส.ส.เอี่ยม ก็ต้องนับว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่คอยลำเลียงปัจจัยต่างๆ ไปดูแลเครือข่ายระดับท้องถิ่นในเพชรบูรณ์นั่นเอง
ดังนั้น หาก สันติ ไม่มี เสี่ยด๊อยซ์ ข้างกาย คอยเป็นมือเป็นไม้ให้แล้ว ก็ลำบาก ความแข็งแกร่งและดุลอำนาจอาจเปลี่ยนมือได้เลยทีเดียว ด้วยความที่นายกฯอบจ.คนนี้ เป็นแกนหลักในการบริหารจัดการการเมืองในระดับพื้นที่ มีเครือข่ายผู้นำท้องถิ่นเป็นฐานสนับสนุน ทำให้สันติได้โลดแล่นบนการเมืองสนามใหญ่ มีตำแหน่งรัฐมนตรีมาหลายสมัย
ในการเลือกตั้งครั้งหน้า สันติ ก็ยังคงมี เสี่ยด๊อยซ์ เป็นขุนพลข้างกายคอยสนับสนุน และค่อนข้างการันตีว่าที่นั่งในเพชรบูรณ์ ไม่น่าจะมีปัญหา แต่สิ่งที่ส่อแววว่าจะมีปัญหาคือการตั้งเป้าของพล.อ.ประวิตร ที่หมายจะกวาดส.ส.ให้ได้ 150 ที่นั่ง ดูจะเป็นโจทย์สุดหินสำหรับแม่บ้านพลังประชารัฐจริงๆ และอาจจะมีผลต่อการอัพเกรดเก้าอี้รัฐมนตรีต่อไปด้วยหรือไม่