"เด็กชวน" ลั่นพร้อมสู้คดีหมิ่นกรือเซะ-ตากใบ ปธ.สภาย้ำไม่ปล่อยขาดอายุความ
"ราเมศ" เลขาประธานสภา ป้อง "ชวน" ยืนยันพร้อมสู้คดีหมิ่น "ทักษิณ" ปมกรือเซะ-ตากใบ เผยปธ.สภากำชับไม่ปล่อยขาดอายุความ
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา ได้โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุว่า จากการที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้มอบอำนาจให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดี “นายชวน หลีกภัย” จากเหตุการณ์วันที่ 28 ตุลาคม 2555 เมื่อครั้งที่ นายชวน หลีกภัย ได้ไปบรรยายในงานโรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งได้พูดถึงกระบวนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อครั้งนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เกิดความผิดพลาด
ทั้งนี้ทักษิณ มอบอำนาจให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องเฉพาะข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ต่อมาพนักงานสอบสวนมีการนัดหมายเวลา แต่เนื่องจากมีเวลาไม่ตรงกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนกระทั่งคดีเงียบหายไป จนทุกฝ่ายคิดว่าคดียุติไปแล้ว แต่ปรากฏว่าคดีดังกล่าวยังไม่ยุติ พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง ก็ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ และพนักงานอัยการก็เห็นควรสั่งฟ้องเช่นกัน
เมื่อตนได้รับการติดต่อจากพนักงานสอบสวนว่า คดีดังกล่าวจะหมดอายุความวันที่ 28 ตุลาคม 2565 และให้ไปพบพนักงานอัยการในวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เพื่อนำตัวส่งพนักงานอัยการเพื่อส่งตัวฟ้องศาล เวลาที่เหลือมีแค่ 3 วันก็จะหมดอายุความ (อายุความคดีนี้ 10 ปี) ความหมายคือคดีนี้จะยุติด้วยเหตุหมดอายุความในวันที่ 28 ตุลาคม 2565 นี้ และจะไม่สามารถดำเนินคดีกับนายชวน หลีกภัย ได้อีกต่อไป
จากนั้นตนก็ได้รับโทรศัพท์จากท่านชวน ที่สอบถามถึงเรื่องคดีนี้ โดยสาระสำคัญหลักการที่ท่านชวนย้ำอย่างชัดเจนคือ
“ราเมศอย่าให้คดีขาดอายุความ องค์กรตำรวจ องค์กรอัยการจะเสียหายได้ จะต้องยึดหลักในการเคารพกฎหมาย ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ผมพร้อมสู้คดี”
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ที่ตนในฐานะทนายความ ดำเนินการประสานทุกฝ่ายเพื่อเข้าพบพนักงานอัยการส่งตัวฟ้องศาล พิมพ์ลายนิ้วมือ เดินทางไปพบพนักงานอัยการ และไปศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อให้พนักงานอัยการได้นำตัวไปฟ้องต่อศาล และทำการประกันตัว
จากการที่เหลือเวลาเพียง 3 วัน ที่จะขาดอายุความ มีคนแนะนำว่าให้ดึงเวลาเพื่อให้ขาดอายุความคดีจะได้จบไป แต่ท่านชวน หลีกภัย ไม่เลือกเส้นทางดังกล่าว แต่ยังคงยึดมั่นในหลักการความถูกต้อง เป็นตัวอย่างในการเคารพกฎหมาย อยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน
นายราเมศ ยังระบุในตอนท้ายว่า ในส่วนของเนื้อหาคดีขออนุญาตไม่กล่าวถึง แต่งานนี้รับประกันว่า น่าติดตามชมไม่น้อยกว่าคดียุบพรรค และคดีทุจริตจำนำข้าว เพราะข้อเท็จจริงทั้งหมดในสมัยรัฐบาลทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่กรือเซะ เหตุการณ์ที่ตากใบ เหตุการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เหตุการณ์จากการปราบปรามยาเสพติด จะถูกยกขึ้นมาชำแหละอีกรอบหนึ่งผ่านคดีนี้ อย่างแน่นอน