“สมช.” เคาะแผน รับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ช่วง “เอเปค”
“เลขาฯ สมช.” เผย เห็นชอบแผนรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ช่วงประชุม “เอเปค” ระบุ “ประวิตร” รายงาน ไม่มีอะไรน่ากังวล แต่เน้นย้ำให้รัดกุม รอบคอบ รปภ.บุคคลสำคัญ เตรียมแผนเผชิญเหตุ เคาะ แผนยกระดับบริหารจัดการชายแดน เข้มข้นทุกมิติ กวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด ค้ามนุษย์
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติครั้งที่ 1/2566 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า ได้รายงานสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ประเด็นช่องแคบไต้หวัน และสถานการณ์ในเมียนมาร์ โดยไทยมีท่าทีชัดเจนสนับสนุนการแก้ปัญหาด้วยการเจรจา สันติวิธีให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มที่ ยึดถือกฎหมายและพันธกรณีระหว่างประเทศ
พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ตนยังได้รายงานสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประชุมให้พยายามแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ด้วยความจริงใจ เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ไม่ว่าจะกลุ่มใดมีส่วนร่วมแก้ปัญหาทั้งในด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การพัฒนาพื้นที่ ให้ประชาชนมีรายได้ มีเศรษฐกิจที่ดีในภาพรวม ส่วนการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนให้เอื้ออำนวยต่อการแก้ไขปัญหา การสนับสนุนธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมและการศึกษาภายใต้กรอบกฎหมาย ขณะที่แนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ใช้แนวทางสันติวิธี ยึดถือกฎหมายอย่างเคร่งครัดและเป็นธรรม แก้ตรงจุด ลดเงื่อนไข สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และได้ย้ำให้ทุกส่วนราชการต้องเข้าใจวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน บูรณาการการทำงานทั้งในเชิงแผนงาน และการปฏิบัติในพื้นที่ โดยเฉพาะ กอ.รมน. ศอ.บต. และกระทรวงมหาดไทย
พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมเอเปค มีการเตรียมการมาอย่างต่อเนื่อง โดยคณะอนุกรรมการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รายงานว่ายังไม่มีสถานการณ์ที่น่ากังวล แต่ได้เน้นย้ำให้ดำเนินการให้รัดกุมและละเอียดรอบคอบ ทั้งในด้านการควบคุมสถานการณ์ในภาพรวม การรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ และแผนเผชิญเหตุเพื่อรองรับสถานการณ์ในระดับต่างๆ ซึ่งได้รายงานให้ทราบถึงขั้นตอนการเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ต่างๆ ให้ทราบแล้ว
พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการยกระดับการบริหารจัดการชายแดนให้มีความเข้มข้นทุกมิติ ทั้งในเรื่องความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การจัดการกับอาชญากรรมข้ามชาติ การจัดการกับปัญหายาเสพติดตามนโยบาย การค้ามนุษย์ ผู้หลบหนีเข้าเมือง และการบูรณาการการทำงานทุกภาคส่วนโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเรื่องของการขับเคลื่อนและการบริหารการพัฒนา รวมทั้งร่างแผนการสนับสนุนด้านการศึกษาของนักเรียนนักศึกษาในพื้นที่ ปี 66-70 และที่ประชุมยังได้เห็นชอบร่างแผนความมั่นคงทางทะเล ปี 66-70 ในการจัดการกับปัญหาความมั่นคงทางทะเล อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแผนมาตรการ ในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในห้วงการประชุมเอเปค