ผบ.ทอ.ห่วงปัญหา สารเสพติด-อาวุธปืน-สุขภาพจิต ย้ำป้องกันก่อนเกิดเหตุ

ผบ.ทอ.ห่วงปัญหา สารเสพติด-อาวุธปืน-สุขภาพจิต ย้ำป้องกันก่อนเกิดเหตุ

"โฆษกกองทัพอากาศ" เผย ผบ.ทอ.เป็นห่วงปัญหา “สารเสพติด-อาวุธปืน-สุขภาพจิต” เน้นย้ำป้องกันก่อนเกิดเหตุ ขอกำลังพลปฏิบัติตัวเหมาะสม สร้างภาพลักษณ์น่าเชื่อถือ

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2565 พลอากาศตรี บุญเลิศ  อันดารา โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในห้วงที่ผ่านมา พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) มีความห่วงใยและตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลกำลังพลของกองทัพอากาศให้ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม รักษาเกียรติ ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของกองทัพ ไม่ก่อเหตุรุนแรงอันจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนต่อสถาบันทหารพร้อมกำชับหัวหน้าหน่วยให้ร่วมกันเฝ้าระวังสาเหตุการก่อเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใต้บังคับบัญชา 

กำหนดแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาการก่อเหตุรุนแรงดังกล่าว ได้แก่

1. “ปัญหาอันเกิดจากสารเสพติด” 

ให้ทุกหน่วยประสานการปฏิบัติกับ สำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง จัดให้มีการสุ่มตรวจสารเสพติดในร่างกายของกำลังพลที่มีพฤติกรรมหรือแนวโน้มเสพสารเสพติดให้โทษ หากตรวจพบ ให้รายงานและส่งตัวเข้าบำบัดรักษาโดยด่วน

 

2. “ปัญหาจากการมีอาวุธไว้ในครอบครอง” 

ได้กำหนดมาตรการด่วนภายใน 1 เดือน ให้กรมสรรพาวุธทหารอากาศสำรวจและจัดทำทะเบียนอาวุธปืนในครอบครองของกำลังพลกองทัพอากาศทั้งหมด พร้อมทั้งให้หัวหน้าหน่วยกำกับดูแลมิให้มีการพกพาอาวุธปืนเข้ามาในสถานที่ราชการ ยกเว้นผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องหรือเวร-ยาม นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ผู้มีอำนาจลงชื่อในหนังสือรับรองความประพฤติให้แก่กำลังพลในหน่วยเพื่อประกอบการขอครอบครองอาวุธปืนตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และความเหมาะสมในการนำไปใช้ ตลอดจนความเสี่ยงทางอารมณ์หรือพฤติกรรมของผู้ขออย่างรอบคอบก่อนลงชื่อรับรอง

3. “ปัญหาจากสาเหตุทางสุขภาพจิต” 

ให้ตรวจสอบกำลังพลในหน่วยที่มีภาวะหรือมีแนวโน้มสุ่มเสี่ยงด้านสุขภาพจิตพร้อมเข้าไปให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด ซึ่งการตรวจให้พบ (Detection) คือจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหา การสอดส่องของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานจึงเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญยิ่ง สำหรับในภาพรวมได้สั่งการให้พิจารณาจัดตั้งหน่วยงานเพื่อพลาง เพื่อรับผิดชอบภารกิจด้านการดูแลสุขภาพจิตของกำลังพลกองทัพอากาศ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ทุกองค์กรจัดตั้งหน่วยงานดูแลด้านสุขภาพจิตของกำลังพลในหน่วย 

ทั้งนี้เพื่อรักษาวินัยอันดีและควบคุม ร่วมขจัดปัญหาเหตุความรุนแรงตั้งแต่ต้นเหตุ สร้างเกราะป้องกันที่ดีให้สังคมต่อไป