“โฆษกรัฐบาล” เผย ความโปร่งใส ไทย ดีขึ้น หลัง ประยุทธ์ ชู แก้โกงวาระแห่งชาติ

“โฆษกรัฐบาล” เผย ความโปร่งใส ไทย ดีขึ้น หลัง ประยุทธ์ ชู แก้โกงวาระแห่งชาติ

“โฆษกรัฐบาล” เผย ผลการประเมินความโปร่งใสภาครัฐ โดย ป.ป.ช. พบไทย คะแนนดีกว่าปีก่อน หลัง “ประยุทธ์” ประกาศแก้ปัญหาทุจริต เป็นวาระแห่งชาติ ชี้ จัดซื้อจัดจ้าง เปิดเผยข้อมูล นายกฯ กำชับ ทุกหน่วยงานต้องตรวจสอบได้

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตเป็นวาระแห่งชาตินั้น จากรายงานผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า ประเทศไทยได้รับคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 87.57 เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2564 ที่มีคะแนนเฉลี่ย81.25 

ทั้งนี้ โครงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐมีการกระบวนการดำเนินงานที่เปิดเผยและโปร่งใส ซึ่งมีการกำหนดให้โครงการก่อสร้างของส่วนราชการ องค์การบริหารส่วนจังหวัด และท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ (กทม./พัทยา) ที่งบประมาณสูงสุด 1 โครงการ รวมทั้งโครงการก่อสร้างของรัฐวิสาหกิจที่มีงบประมาณตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไปทุกโครงการ และโครงการก่อสร้างของเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล ที่มีงบประมาณตั้งแต่ 7 ล้านบาทขึ้นไปทุกโครงการ จะต้องเข้าร่วมโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (Infrastructure Transparency initiative : CoST) เพื่อเปิดเผยข้อมูลโครงการตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งสิ้นสุดโครงการ ผ่านเว็บไซต์ CoST Thailand เพื่อให้สาธารณชนสามารถติดตามและตรวจสอบข้อมูลได้ รวมทั้งยังมีการติดตามความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างที่เข้าร่วมโครงการ CoST จากการลงพื้นที่สุ่มตรวจของคณะทำงานตรวจสอบข้อมูล ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และสำนักงานคลังจังหวัดในพื้นที่โครงการอีกด้วย

สำหรับโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่มีวงเงินงบประมาณ ตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องส่งโครงการเข้าร่วมจัดทำข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact : IP) โดยจะมีผู้สังเกตการณ์ซึ่งเป็นผู้แทนจากภาคประชาชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่เริ่มจัดทำร่างขอบเขตของงาน (TOR) จนกระทั่งสิ้นสุดโครงการ รวมทั้งจะต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบการจัดซื้อจัดจ้างด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) ซึ่งเป็นระบบที่ผู้ค้าสามารถยื่นข้อเสนอผ่านออนไลน์ และไม่มีการพบเจอกันระหว่างผู้ค้าและหน่วยงานที่ต้องการจัดซื้อจัดจ้าง โดยหลังจากเสนอราคาและได้ผู้ชนะการเสนอราคาแล้ว ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อจัดจ้างจะมีการเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ www.gprocurement.go.th

“รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการทุจริต และพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อให้ภาครัฐมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริต บริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล และมุ่งสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริต โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ ยึดหลักการทำงานด้วยความโปร่งใส และตรวจสอบได้” นายอนุชา กล่าว