“นายกฯ” ถกเตรียมความพร้อม ก่อนร่วมเวทีอาเซียนซัมมิท กัมพูชา เจ้าภาพ
นายกฯ เรียกถก เตรียมความพร้อม ประชุมอาเซียนซัมมิท กัมพูชา เจ้าภาพ ก่อน เรียกคลังหารือ บ่ายนี้ คาดปม ค้ำประกันเงินกู้กองทุนน้ำมัน - สร้างรันเวย์สนามบินอู่ตะเภา
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลตามปกติในเวลา 08.51 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่ภารกิจในช่วงเช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรีจะประชุมเตรียมการประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งประเทศกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพการประชุมระหว่างวันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2565 ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ส่วนเวลา 10.15 น. นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 1 ผ่านบันทึกวีดิทัศน์ โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบทำให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยเสื่อมถอยลง เนื่องจากประชาชน และผู้ประกอบธุรกิจขาดรายได้ ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ต่ำลง ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้คลี่คลายลงแล้ว และสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น แต่ปัญหาภาระหนี้ของประชาชนยังคงอยู่ ซึ่งรัฐบาลได้เห็นถึงความสำคัญของปัญหาหนี้ครัวเรือนนี้ และต้องการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง จึงได้กำหนดให้ “ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน” เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขหนี้ครัวเรือน และบูรณาการความร่วมมือระหว่างหลายหน่วยงาน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับประชาชน และผู้ประกอบการได้อย่างเบ็ดเสร็จ
นายกรัฐมนตรี ย้ำถึงการจัดงาน มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการแก้หนี้ครัวเรือนตามนโยบายรัฐบาลในปี 2565 เพื่อช่วยเหลือ และส่งเสริมการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน และเปิดโอกาสให้ประชาชน และผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือของภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม โดยในงานมหกรรมจะมีกิจกรรมประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ (1) การแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม (2) การสร้างรายได้ผ่านการสร้างอาชีพหรืออาชีพเสริม และ (3) การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนด้วยการส่งเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ โดยการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการจัดงาน ครั้งที่ 1 และจะมีกำหนดจัดงานครั้งต่อๆ ไป อีก 4 ครั้ง ครอบคลุมทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2565 - มกราคม 2566
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีเชิญชวนทุกคนให้มาร่วมงานเพื่อเข้ารับคำปรึกษาในการจัดการแก้ไขปัญหาหนี้จากหน่วยงานต่างๆ โดยหวังว่างาน ‘มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน จะช่วยให้ประชาชนสามารถแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินที่มีอยู่ได้อย่างตรงจุดสอดคล้องกับศักยภาพในการชำระหนี้ รวมทั้งได้รับการส่งเสริมความรู้ และการสร้างวินัยทางด้านการเงิน เพื่อที่จะหลุดพ้นจากกับดักหนี้สินได้อย่างยั่งยืน
ขณะที่ในช่วงบ่ายผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมวงเล็กร่วมกับกระทรวงการคลัง บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยคาดการณ์ว่า จะเป็นการหารือ เรื่อง การค้ำประกันการกู้เงิน เพื่ออุดหนุนกองทุนน้ำมัน เบื้องต้นกองทุนน้ำมันจะกู้เงินล็อตแรก 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการกู้งวดแรกที่ 5,000 ล้านบาท และจะทยอยกู้งวดที่ 2 อีก 5,000 ล้านบาท โดยต้องรอกระทรวงการคลัง เห็นชอบการกู้เงินเพื่อให้แบงก์ดำเนินการต่อ แม้จะเดาลำบากว่ากระทรวงการคลัง จะเซ็นหนังสือค้ำประกันให้เมื่อไหร่ แต่เท่าที่ทราบการรายงานของสกนช.ก็ยืนยันมาว่ากระทรวงการคลัง จะพยายามทำให้ได้เร็วที่สุด” แหล่งข่าว กล่าว
นอกจากนี้คาดการณ์ว่ากระทรวงการคลัง รายงานว่าการจัดหาแหล่งเงินกู้ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติการบริหาร และการจัดสรรหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในกรอบวงเงิน 16,210.90 ล้านบาทงบประมาณสมทบ ให้กับกองทัพเรือ โดยให้สำนักงบจัดสรรงบประมาณสมทบในอัตราส่วน ของแหล่งเงินกู้และเงินงบประมาณเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังตกลงกับแหล่งเงินกู้ (คนน.)
ปัจจุบันกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างทาบทามแหล่งเงินกู้ต่างประเทศ ได้ประสานให้กองทัพเรือและ สกพอ. จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องตามเงื่อนไขในการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ของแหล่งเงินกู้ต่างประเทศ เช่น เอกสารที่เกี่ยวข้องกับรายละเอียด การดำเนินโครงการ (Project Document) เอกสารด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม (Environmental and Social Framework) เอกสารประกวดราคา (Bidding Document) และคู่มือการปฏิบัติงาน (Project Operational Manual) ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ตามเงื่อนไขของแหล่งเงินกู้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์