ศึกชิงอุบล “เฮียกวง” ทะลวงฐาน “ทักษิณ”
คอลัมน์ มังกรซ่อนพยัคฆ์ โดย ประชา บูรพาวิถี /
ยกทัพใหญ่ไปเมืองอุบลฯ “สมคิด” มุ่งเจาะฐานเพื่อไทย “สุพล-สุทธิชัย” ดรีมทีมสร้างอนาคตไทย ปะทะ “เกรียง-กุ่ย” ขุนพลคนสนิททักษิณ
พรรคสร้างอนาคตไทย เลือกอุบลราชธานี เป็นเวทีเปิดตัว สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน 12 จังหวัด จำนวน 32 คน เพราะเป็นพื้นที่เป้าหมายที่จะได้ ส.ส.เขตมากที่สุด สำหรับสมรภูมิอีสาน
จะว่าไปแล้ว การต่อสู้ในสังเวียนเมืองอุบลฯ ก็หนีไม่พ้นศึกคนกันเอง ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย
“เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้กล่าวบนเวทีที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีตอนหนึ่งว่า “ตอนพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ผมเป็นหนึ่งในนั้นที่ถูกแบน 5 ปี...ในใจรู้สึกว่า 6 ปีเต็มในรัฐบาล(ไทยรักไทย)สมัยนั้น เราทำทุกอย่างไม่ได้เพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่ทำเพื่อหัวใจของเรา”
ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย พยายามจะสื่อสารไปถึงคนอีสานว่า พวกเขามาจากพรรคไทยรักไทย พรรคการเมืองของมหาชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ซึ่งวันนี้ ไม่มีไทยรักไทย พวกเขาจึงก่อตั้งพรรคใหม่ขึ้นมา
เช่นเดียวกัน วันที่ สุพล ฟองงาม ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ และพรรคพลังประชารัฐ มาร่วมก่อร่างสร้างพรรคสร้างอนาคตไทย คงคิดว่า การที่แบกป้ายลุงตู่-ลุงป้อมไปหาเสียงสมัยหน้าในเมืองอุบลฯ ก็จะอกหักซ้ำสอง จึงตัดสินใจเลือกชู “เฮียกวง” แทน
คู่รักคู่แค้น
บนเวทีสร้างอนาคตไทย ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และประธานภาคอีสานของพรรค ย้อนอดีตสมัยเป็นแม่ทัพเพื่อไทยอีสาน และแกนนำเสื้อแดงเมืองอุบลฯ
“ผมขอโทษพี่น้องประชาชน ผิดไปแล้ว ก่อนหน้านี้ที่ใส่เสื้อแดง ผมเคยเป็นประธานเสื้อแดง แต่ตอนเผาบ้านเผาเมืองไม่ได้สั่ง...อย่ามาแบ่งสี อย่ามาเหลืองทั้งแผ่นดิน อย่ามาแดงทั้งแผ่นดิน อย่าเอาชื่อหัวหน้า นปช. มาให้ผม ผมไม่เอา ผมพอแล้ว”
สุพล ฟองงาม แม่ทัพสร้างอนาคตไทยอีสาน พูดดักคอเพื่อนเก่า “เกรียง-กุ่ย” เพราะวาทกรรมแดงทั้งแผ่นดิน จะกลับมาอีกครั้ง พร้อมแคมเปญเพื่อไทยแลนด์สไลด์
ลึกๆแล้ว การเลือกตั้ง ส.ส.อุบลฯ ปี 2562 และการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ ปลายปี 2563 ก็คือภาพสะท้อนของ 2 ก๊กการเมือง ระหว่างกลุ่มเกรียง กัลป์ตินันท์ และกลุ่มสุพล ฟองงาม
เดิมทีทั้งเกรียง และสุพลก็อยู่ในซุ้มวังน้ำเย็น ของเสนาะ เทียนทอง แต่ช่วงหลัง เสี่ยเบี้ยว-เกรียง วิ่งไปซบเจ๊แดง เยาวภา แต่สุพลยังอยู่กับป๋าเหนาะ
ตั้งแต่สมัยอยู่พรรคเพื่อไทย เสี่ยเบี้ยวกับสุพล ก็ต่อสู้กันในเวทีการเมืองท้องถิ่นชนิดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ กระทั่ง สุพลได้พาอดีต ส.ส.อุบลฯกลุ่มหนึ่งไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ จึงเป็นการปะทะกันยกแรกในเวทีการเมืองระดับชาติ
ผลปรากฏว่า ทีมเสี่ยเบี้ยวชนะ ทีมสุพลแพ้หมด ยกเว้น ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ที่ได้รับเลือกเป็น ส.ส.อุบลฯ พรรค พปชร.นั้น สังกัดซุ้ม ส.เขมราฐ
การเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ ทีมเสี่ยเบี้ยววัดฝีมือกับทีมสุพลอีกครั้ง ปรากฏว่า กานต์ กัลป์ตินันท์ น้องชายเสี่ยเบี้ยว ได้ 288,567 คะแนน และเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ ทีมสุพล ฟองงาม มาเป็นอันดับ 2 ได้ 269,435 คะแนน
แม้ทีมสุพลจะปราชัยในสนาม อบจ.อุบลฯ แต่ก็มีต้นทุน 269,435 เสียง มาต่อยอดกับพรรคสร้างอนาคตไทย โดยตัวเต็งที่จะเข้าป้ายมีอยู่ 2 คนคือ สุทธิชัย จรูญเนตร และเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์
บ้านใหญ่ชายโขง
ตระกูลโภคกุลกานนท์ ที่มี อดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีต ส.ส.อุบลฯ 11 สมัย เจ้าของ หจก.ฮุ่นกี่พืชผลพาณิชย์ อ.ตระการพืชผล เป็นผู้นำ และเป็นคู่แข่งตลอดกาลของ ชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลฯ พรรคเพื่อไทย
ลำพังสุพล ฟองงาม คนเดียว ทั้งเสี่ยเกรียง และเสี่ยกุ่ยไม่กลัว แต่การที่สุพลมี อดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ เป็นพันธมิตร ทำให้เสี่ยกุ่ยหนาวๆร้อนๆ
ปัจจุบัน อดิศักดิ์รับบทแม่ทัพหลังม่าน คอยสนับสนุนลูกชาย ตี๋เล็ก-เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ และลูกเขย สุทธิชัย จรูญเนตร ลุยสนามการเมืองแทน
การเลือกตั้ง ส.ส.อุบลฯ ปี 2562 รัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ เพื่อไทย เฉือนเอาชนะสุทธิชัย จรูญเนตร พลังประชารัฐ ที่เขต 5 (อ.ตระการพืชผล,อ.กุดข้าวปุ้น) และชูวิทย์ กุ่ย เบียดชนะตี๋เล็ก-เชิดศักดิ์ ที่เขต 7 (อ.ศรีเมืองใหม่,อ.โขงเจียม)
สุทธิชัย จรูญเนตร เป็น ส.ส.อุบลฯมาแล้ว 2 สมัย ในสีเสื้อพลังประชาชนและเพื่อไทย หลังพ่ายเลือกตั้ง ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ก็แต่งตั้ง สุทธิชัย จรูญเนตร เป็นประธานที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ก่อนจะลาออกมาอยู่พรรคสร้างอนาคตไทย
ชั่วโมงนี้ ตี๋เล็ก-เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ และสุทธิชัย จรูญเนตร พร้อมแล้วที่จะลงสนามท้าชิงแชมป์จากเพื่อไทยในเขตเดิม
เดิมพันเกรียง-กุ่ย
ปมชีวิตเสี่ยเบี้ยว-เกรียง กัลป์ตินันท์ เป็น ส.ส.อุบลฯ มาหลายสมัย อยู่กับทักษิณมาแต่ปี 2544 แต่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ต่างจาก สุพล ฟองงาม ที่ได้เป็น รมช.มหาดไทย และเคยเป็นเลขาธิการเพื่อไทย
ช่วงเดือน มี.ค.2565 เสี่ยเกรียงและเสี่ยกุ่ย จึงยกคณะ ส.ส.อุบลฯ และยโสธรประมาณ 10 คน ไปพบทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สิงคโปร์ แถมมีการแจกภาพเกรียง-กุ่ย นั่งร่วมโต๊ะอาหารกับทักษิณให้สื่อมวลชนอีกด้วย
สำหรับการเลือกตั้งสมัยหน้า อุบลราชธานี มี ส.ส.เพิ่มจาก 10 คนเป็น 11 คน เสี่ยเกรียง และเสี่ยกุ่ย ก็รับปากทักษิณ ชินวัตร จะนำทัพยึดเก้าอี้ ส.ส.ทั้ง 11 ที่นั่งให้ได้
รายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุบลฯ เพื่อไทย ประกอบด้วยวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์,ณรงค์ชัย วีระกุล ,กิตติ์ธัญญา วาจาดี, เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ, รัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ ,ธัญธารีย์ สันตพันธุ์ ,สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ,เอกพล ญาวงศ์ ,ประภูศักดิ์ จินตะเวช, สมคิด เชื้อคง และชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ
ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุบลฯ เพื่อไทย 11 คน เป็น ส.ส.อยู่แล้ว 7 คน สมัยที่แล้ว พลังประชารัฐ และประชาธิปัตย์ แบ่งไป 3 ที่นั่ง
ที่น่าสนใจในสนามอุบลฯสมัยหน้า เสี่ยกุ่ย วางตัวลูกสาว สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ลงสมัคร ส.ส.เขต 7 เขตเดิมของตัวเอง แล้วตัวเสี่ยกุ่ยเองก็ไปย้ายเขตใหม่ โซน อ.ม่วงสามสิบ อ.ดอนมดแดง และ อ.ตาลสุม
เสี่ยกุ่ยก็เหมือนเสี่ยเกรียง อยากเป็นรัฐมนตรี ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งครั้งหน้า คงถึงคิวเกรียง-กุ่ย ต้องได้เป็นรัฐมนตรี
ฝันเกรียง-กุ่ย จะเป็นจริงหรือไม่ ต้องถามสุพล ฟองงาม และทีมบ้านใหญ่ตระกูลโภคกุลกานนท์ เพราะค่ายเฮียกวง ก็ทุ่มสรรพกำลังเต็มอัตราศึกเหมือนกัน