ชำแหละก๊วน “พปชร.-ปชป.” หนีตาม “ประยุทธ์” ซบ รทสช.
พรรครวมไทยสร้างชาติเริ่มเนื้อหอม “ขุนพลการเมือง-นักเลือกตั้ง” จากค่ายพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ มีแนวโน้มจะย้ายตาม “ประยุทธ์” เข้าสังกัด ซึ่งจะมีความชัดเจนออกมาอีกครั้งภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเอเปค
ฮอตสุด นาทีนี้ คงหนีไม่พ้นพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มี “เดอะตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นผู้นำพรรค ท่ามกลางกระแสข่าว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม เตรียมประกาศอนาคตทางการเมือง ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเอเปค
แม้ “พีระพันธุ์” จะแบ่งรับแบ่งสู้ ออกตัวไม่รู้ว่า “ประยุทธ์” จะเข้าสังกัดพรรค รทสช.หรือไม่ แต่ส่งสัญญาณทอดสะพานไปถึง ด้วยคีย์เวิร์ดที่ว่า “พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ที่ไหนก็ดีกับที่นั่น”
วงในพรรค รทสช.ยอมรับว่าชื่อ “ประยุทธ์” ยังขายได้ ตรงกันข้ามกับแบรนด์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่แทบไม่เหลือความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีแต่ข่าวความแตกแยกภายในพรรค และการแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรี
โดยผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง “คนที่ใช่ พรรคที่ชอบ” รายภูมิภาคของสถาบันบัณทิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ "นิด้าโพล" สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า คะแนนของ “ประยุทธ์” เปรียบเทียบกับ “พลังประชารัฐ” มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
พื้นที่ กทม. “ประยุทธ์” ได้รับเลือกมาเป็น 2 ที่ 15.20% พรรคพลังประชารัฐ ส.ส. เขต อันดับ 3 ที่ 9.50% และส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 4 ที่ 9.15%
ภาคใต้ “ประยุทธ์” ได้รับเลือกมาเป็นที่ 1 ที่ 23.94% พรรคพลังประชารัฐ ส.ส. เขต อันดับ 3 ที่ 12.09% และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 5 ที่ 11.89%
ภาคอีสาน ได้รับเลือกเข้ามาเป็นอันดับ 4 ที่ 9.85% พรรคพลังประชารัฐ ส.ส. เขต อันดับ 5 ที่ 5.30% และส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 5 ที่ 5.25%
ภาคเหนือ ได้รับเลือกมาเป็นอันดับ 3 ด้วย 12.65% พรรคพลังประชารัฐ ส.ส. เขต อันดับ 3 ที่ 8.05% และส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 3 ที่ 7.20%
เหตุผลที่ประชาชนจากทุกภาคเทคะแนนให้ “ประยุทธ์” เพราะซื่อสัตย์สุจริต ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ และต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง
โดยผลสำรวจของนิด้าโพล ถูก “นักเลือกตั้ง” นำไปอ้างอิงในการตัดสินใจจะเข้าสังกัดพรรคการเมืองที่ “ประยุทธ์” จะเข้าสังกัดในระดับหนึ่ง และเป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ จะมูฟออนออกจากพรรคตาม “ประยุทธ์” ไปด้วย
พื้นที่ กทม.จากเดิมที่มีกระแสข่าวว่า “กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ” ส.ส.กทม. เขต 1 จะย้ายจากพรรคพลังประชารัฐ เข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย แต่อาจจะต้องล้มดีล หันกลับมาซบพรรค รทสช.แทน เช่นเดียวกับ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐหลายคนที่มีดีลย้ายพรรค อาทิ “ชาญวิทย์ วิภูศิริ” ส.ส. กทม. เขต 15 “ศิริพงษ์ รัสมี” ส.ส. กทม. เขต 17 เป็นต้น
นอกจากนี้ พรรค รทสช.ยังมีดีลกับ “ตระกูลม่วงศิริ” ทั้ง สาทร ม่วงศิริ สากล ม่วงศิริ และ พ.ต.อ.สามารถ ม่วงศิริ จากพรรคประชาธิปัตย์ ให้เข้ามาผนึกยึดฝั่งธนฯ
โดยการเลือกตั้งปี 2562 “ตระกูลม่วงศิริ” เกือบย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่เปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย
พื้นที่ภาคใต้ มีความเป็นไปได้สูงที่ 14 ส.ส. ภาคใต้ ของพรรคพลังประชารัฐ จะย้ายตาม “ประยุทธ์” เพราะรับรู้กันดีว่าที่ได้นั่งเก้าอี้ ส.ส. หลังการเลือกตั้งปี 2562 ไม่ได้มาจากฐานคะแนนของตัวเอง แต่มาจากกระแส “ประยุทธ์”
ทว่า “แกนนำ รทสช.” มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อยู่แล้วในหลายพื้นที่ อาทิ สุราษฎร์ธานี ชุมพร พัทลุง ระนอง และภูเก็ต ขาดเพียงบางพื้นที่ของนครศรีธรรมราช สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ดังนั้นแม้ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จะแสดงเจตจำนงค์ขอย้ายเข้าสังกัดพรรค รทสช. แต่อาจจะมีการคัดเลือกแค่บางคนเท่านั้น
ขณะเดียวกัน กลุ่ม-ก๊วน การเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ เริ่มขยับจับจองพื้นที่ภายในพรรค รทสช. เช่นกัน อาทิ “กลุ่มเสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน บารมีเบ่งบานใน จ.ชลบุรี เบียดบ้านใหญ่ “คุณปลื้ม” จนมีกระแสข่าวขอแยกวงไปตั้ง “พรรคพลังบูรพา” ขยายฐานจากพรรคพลังชล
โดย “สุชาติ” วางเป้า-วางขุนพล กวาด ส.ส. พื้นที่ภาคกลางตะวันออกเช่นกัน โดยพยายามดึงตัวผู้สมัครเกรดเอเข้าร่วมก๊วน ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า สามารถดึงตัว “ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์” ส.ส. ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ เข้ามาผนึก รอย้ายมาตาม “ประยุทธ์” มาได้อีกคน
“กลุ่มเพชรบูรณ์” แม้ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คมนาคม จะนั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แต่เนื้อในแล้ว “สันติ” จัดอยู่ในขุนพลข้างกาย “นายกฯตู่” ในช่วงเปิดศึกกับ “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส. พรรคเศรษฐกิจไทย ดังนั้นหากต้องเลือก “สันติ” ไม่ลังเลใจที่จะติดสอยห้อยท้าย “ประยุทธ์” ไปอีกคน
“กลุ่มสามมิตร” ทั้ง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม “อนุชา นาคาศัย” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังสงบนิ่งตามสไตล์ ไม่ออกมาแสดงจุดยืน แต่มีกระแสข่าวว่า มีไฟล์ทลับ บินไปต่างประเทศเพื่อหารือกันเป็นการส่วนตัวแล้ว รอแค่วัน ว. เวลา น.ในการตัดสินใจ
สำหรับกลุ่ม-ก๊วนอื่น อาทิ "กลุ่มกำแพงเพชร" ของ “วราเทพ รัตนากร” "กลุ่มสระแก้ว” ภายใต้การนำของ “ตรีนุช เทียนทอง” รมว.ศึกษาธิการ "กลุ่มปากน้ำ" ของ “เสี่ยเอ๋” ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อาจจะต้องรอความชัดเจนจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าจะขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐต่อหรือไม่
นอกจากนี้ พรรครทสช. ยังมีดีลกับ “บิ๊กเนม” ภายในพรรคประชาธิปัตย์ โฟกัสหลักจับจ้องไปที่ “เสี่ยไก่” จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะตัดสินใจย้ายออกจากพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงใด เนื่องจากที่ผ่านมา “บิ๊กปชป.” ไม่ปลื้มกับบทบาทของ “จุติ” ที่ไม่ช่วยเหลืองานพรรค แต่กลับแอบส่งกำลังหนุนให้ “ทีมประยุทธ์”
ขณะเดียวกัน ต้องจับความเคลื่อนไหวของ “เสี่ยตี๋” สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ส.ส.ระยอง ที่กำลังเนื้อหอมเช่นกัน มีหลายพรรคตามจีบ หนึ่งในนั้นเป็นพรรค รทสช. ที่อยากได้ “สาธิต” มาร่วมงาน หากตัดสินใจย้ายออกจากพรรคประชาธิปัตย์
ทว่า มีกระแสข่าวว่า “สาธิต” ปิ๊งไอเดีย "พรรคพลังบูรพา" ที่อาจจะจับมือกับ “ตระกูลคุณปลื้ม” เพื่อเสริมแกร่งให้แบรนด์ “พลังบูรพา”
ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหวของ “ขุนพลการเมือง-นักเลือกตั้ง” ที่มีแนวโน้มจะย้ายตาม “ประยุทธ์” เข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งจะมีความชัดเจนออกมาอีกครั้งภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเอเปค ซึ่งคาดการณ์กันว่า “ประยุทธ์” จะประกาศอนาคตทางการเมืองในวันที่ 21 พ.ย.นี้