ผงะ! บ่อนใหญ่ใจกลางเมืองพัทยา ภายในตกแต่งหรู “บิ๊กโจ๊ก” สั่งทลาย
ผงะ! บ่อนใหญ่ใจกลางเมืองพัทยา มีทั้งโต๊ะบาคาร่า เสือ-มังกร ลูกเต๋า ภายในตกแต่งหรูหรา “บิ๊กโจ๊ก” สั่งทลาย เร่งตามล่าตัวนายทุน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (9 พ.ย.) “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งด่วนให้ พ.ต.อ.กุลชาต กุลชาติ และพ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.ตราด นำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สนธิกำลังร่วมตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเขต 2 ชลบุรี นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 55/2565 เข้าตรวจสอบอาคารต้องสงสัย ของกลุ่มนายทุนจีนเนื้อที่ประมาณ 150 ตารางวา ตั้งอยู่บริเวณแยกเฉลิมเกียรติ 6 ( แยกเพนียดช้าง ) ถนนพัทยาสาย 3 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มนายทุนจีนเตรียมลงทุนทำธุรกิจสีเทา
อาคารดังกล่าว ในอดีตเคยเป็นร้านอาการหมูกรทะของชาวจีน แต่ปัจจุบันได้ปิดตัวลง ภายในมีช่างกำลังก่อสร้างดัดแปลง เป็นอาคารแบบปิด ตำรวจได้แสดงหมายค้นกับผู้ที่อ้างว่าเป็น คนเฝ้าดูแล คือ นายเอ็ม (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาว อ.สัตหีบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายค้นโดยระหว่างเข้าตรวจสอบภายในอาคารเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับตะลึงเมื่อพบว่าอาคารดังกล่าว กำลังเตรียมเปิดเป็นบ่อนบาคาร่าขนาดใหญ่
โดยมีการแบ่งเป็น ห้องโถงขนาด ใหญ่ 1 ห้อง ห้องแลกชิป 1 ห้อง ห้องวีไอพี 2 ห้อง ห้องซีซีทีวี 1 ห้อง ห้องครัวขนาดใหญ่ ห้องน้ำ ห้องเก็บของ และ ยังมีการก่อสร้างดัดแปลงเป็นชั้นลอย โดยสร้างแบ่งเป็นห้องพักจำนวน 2 ห้อง ภายในอาคารยังมีการปูพรมสีแดงอย่างสวยงาม
นอกจากนี้ ยังพบ ต๊ะบาคาล่า จำนวน 6 โต๊ะ โต๊ะ เสือ/มังกร จำนวน 1 โต๊ะ ลูกเต๋ากว่า 500 ลูก ไพ่สำรับใหม่ประมาณ 400-500 สำรับ และ อุปกรณ์เล่นการพนันอีกหลายรายการ และยังพบว่าเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด มี โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา โต๊ะน้ำชา ซึ่งเป็นของใหม่ทั้งหมด กำลังเตรียมการเปิดเป็นบ่อนขนาดใหญ่ใจกลางเมืองพัทยา ตำรวจจึงทำการลงบันทึกตรวจยึดตรวจสอบทั้งหมด พร้อมทั้งควบคุมตัว คนที่อ้างเป็นคนดูแลไปทำการสอบสวนหาเจ้าของตัวจริง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบที่ดินดังกล่าวพบว่ามีเนื่อที่ 16 ไร่โดยมีชาวจีนเป็นผู้ทำสัญญาเช่าระยะยาวตั้งแต่ประมาณปี 2559 และได้จัดสรรที่ดินสร้างเป็นสนามมวย,ร้านคาราโอเกะ,ร้านอาหารหมูกระทะ, ร้านอาหารจีนซึ่งได้ปิดตัวลงในช่วงสถานการณ์โควิด 19
กระทั่งสืบทราบว่ามีการดัดแปลงอาคาร เพื่อเตรียมทำธุรกิจบางอย่าง ส่วนเจ้าของอาคารยังอยู่ในขั้นตอนสืบสวนสอบสวนซึ่งขณะนี้ทราบชื่อเพียง นายหมิง สัญชาติจีนเท่านั้น