เปิดตัว 5 เอกชน “พยานปากเอก” ร่วม “บุญทรง” ไขเบื้องหลังคดีข้าวจีทูจี 2
เปิดตัว 5 เอกชนค้าข้าว “พยานปากเอก” ร่วม “บุญทรง” ไขเบื้องหลัง ป.ป.ช.ไต่สวนคดี “ข้าวจีทูจี” ล็อต 2 แคชเชียร์เช็ค 1,822 ใบ วงเงิน 9.6 หมื่นล้าน คำให้การบริษัทข้าว-คลิปวีดีโอลับ หลักฐานมัด “นักการเมืองใหญ่”
ไม่ใช่แค่ “บุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีต รมว.พาณิชย์ เพียงเท่านั้นที่ถูกกันเป็นพยานในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อต 2 ที่เตรียมชงเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายในเดือน พ.ย.นี้
แต่ยังมี “เอกชน” ทำธุรกิจค้าขายข้าวระดับ “ภูมิภาค” อีกอย่างน้อย 5 ราย ถูก ป.ป.ช.กันไว้เป็นพยานในคดีนี้ด้วย
เงื่อนปมโครงการระบายข้าวแบบจีทูจี ตามสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. และตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อปี 2560 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ขององค์คณะผู้พิพากษาที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เมื่อปี 2562 ระบุตรงกันว่า โครงการนี้เกิดขึ้นภายใต้ร่มใหญ่ของนโยบาย “จำนำข้าว” มีการทำสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจีจำนวน 10 สัญญา พบการทุจริต 8 สัญญา สมัย “บุญทรง” เป็น รมว.พาณิชย์ และ “ภูมิ สาระผล” เป็น รมช.พาณิชย์ ส่วนอีก 2 สัญญา สมัย “นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล” ช่วงปลายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่พบการทุจริต
พฤติการณ์โดยสรุปคือ ไม่ได้มีการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีจริง โดยในล็อตแรกพบว่ารัฐวิสาหกิจจีน 2 แห่งคือ “กว้างตุ้งฯ” และ “ไห่หนานฯ” ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อซื้อขายข้าว และไม่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการจากจีน แต่มีการนำข้าวในโกดัง-โรงสีข้าวมาเวียนขายทั่วประเทศ ผ่านบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ของ “เสี่ยเปี๋ยง” อภิชาติ จันทร์สกุลพร อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง อดีตคนสนิท “นายใหญ่แดนไกล” โดยมีคีย์แมนคนสำคัญอย่าง “หมอโด่ง” พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ เป็นคนเดินเรื่อง
สำหรับในล็อตสองมีการเปลี่ยนตัวละครบางตัว เช่น รัฐวิสาหกิจจีน 4 แห่งใหม่ (เรียกกันในวงการว่า 4 ไห่ฯ) เป็นผู้เข้ามาเจรจาซื้อขายข้าว และอดีตข้าราชการบางคนที่โยกย้ายสับเปลี่ยนตามฤดูกาล แต่บรรดา “คีย์แมน” ยังคงหน้าเดิม
แต่คดีข้าวจีทูจีทั้งล็อตแรกและล็อตสอง จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มี “พยานปากเอก” ที่ให้การ จนสุดท้าย ป.ป.ช.ไปสืบสาวราวเรื่อง ผสานกับพยานหลักฐานต่าง ๆ เจือสมกันจนเชื่อได้ว่าเกิดการทุจริตขึ้นจริง และศาลฎีกาฯพิพากษาเอาผิดจำเลยในล็อตแรกไปแล้ว และที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.กำลังจะมีการพิจารณาในล็อตสอง
พยานหลักฐานชิ้นสำคัญหนีไม่พ้น “แคชเชียร์เช็ค” ที่มีการสั่งจ่ายเงินซื้อขายข้าวเวียนกันในประเทศ จำนวน 1,822 ฉบับ วงเงินราว 9.6 หมื่นล้านบาท (รวมการระบายข้าวจีทูจี 8 สัญญา) โดย ป.ป.ช.มีการอายัดแคชเชียร์เช็คไปแล้วหลายฉบับ รวมวงเงินหลายพันล้านบาท
บรรดาเอกชน-โรงสีข้าวนับ 100 แห่งที่ถูกไต่สวนในคดีนี้ ป.ป.ช.ได้กันเอกชนไว้เป็นพยานอย่างน้อย 5 ราย เนื่องจากปรากฏชื่อบน “แคชเชียร์เช็ค” หนึ่งในพยานเอกสารชิ้นสำคัญคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจีครั้งนี้ ได้แก่
- บริษัท เอเซียโกลเด้น ไรซ์ จำกัด
จดทะเบียนเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2542 ทุนปัจจุบัน 2,520,000,000 บาท ตั้งอยู่ที่ 54-55 หมู่ที่ 8 ถนนฉะเชิงเทรา-บางปะกง ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ทำธุรกิจการขายส่งข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการโรงสีข้าว ปรากฏชื่อ 1. นายชัยวัฒน์ นิ้มวัฒนา 2. นายพรชัย โตนิติวงศ์ 3. นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ เป็นกรรมการ นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 9,563,140,428 บาท กำไรสุทธิ 41,498,734 บาท
- บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด
จดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2520 ทุนปัจจุบัน 800 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 126/104-113,115 ถนนกรุงธนบุรี แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจเกี่ยวกับข้าว ปรากฏชื่อ 1. นายวรพงศ์ พิชญ์พงศา 2. นายวิเชียร วนิชจักร์วงศ์ 3. นางอัมภา อัครบุญเลิศยศ 4. นายพงศ์พัฒน์ วนิชจักร์วงศ์ 5. นายวัลลภ พิชญ์พงศา 6. นายอนันต์ พิเชฐพงศา เป็นกรรมการ นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 260,488,724 บาท กำไรสุทธิ 96,861,795 บาท
- บริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ จำกัด
จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2524 ทุนปัจจุบัน 1,380,000,000 บาท ตั้งอยู่ที่ 126/104 ถนนกรุงธนบุรี แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจขายข้าว ปรากฏชื่อ 1. นายไพศาล วนิชจักร์วงศ์ 2. นางสาวอัมพรศรี ตันติสถาพร 3. นายสรพล เอื้อชูวงศ์ 4. นายธารเกษม วนิชจักร์วงศ์ 5. นายวิญญู พิชญ์พงศา 6. นายรวิสักก์ วนิชจักร์วงศ์ เป็นกรรมการ นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 13,245,194,364 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,089,864,123 บาท
- บริษัท ข้าวไชยพร จำกัด
จดทะเบียนเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2511 ทุนปัจจุบัน 400 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 613-615-617 ถนนทรงวาด แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจขายข้าว ปรากฏชื่อ 1. นายไพบูลย์ ควรทรงธรรม 2. นายสมชัย บุณยมานนท์ 3. นางสาวอรพิน ควรทรงธรรม เป็นกรรมการ นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2565 มีรายได้รวม 860,401 บาท ขาดทุนสุทธิ 229,576,438 บาท
- บริษัท ไทยฟ้า (2511) จำกัด
จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2511 ทุนปัจจุบัน 400 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 139 ถนนปั้น แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจส่งข้าวออกจำหน่ายต่างประเทศ ปรากฏชื่อ 1. นายสุชาติ เศรษฐีวรรณ 2. นายพงษ์ชัย เศรษฐีวรรณ 3. นายโชคชัย เศรษฐีวรรณ นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2565 มีรายได้รวม 5,411,255,438 บาท ขาดทุนสุทธิ 30,439,096 บาท
สำหรับเอกชนทั้ง 5 แห่งเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ในการซื้อขายข้าวและอื่น ๆ รวมวงเงินกันหลายพันล้านบาท
อย่างไรก็ดีมีเอกชนอย่างน้อย 4 ใน 5 ราย ให้การ “กลับไปกลับมา” หลายครั้ง โดยช่วงแรกสมัยไต่สวนคดีข้าวจีทูจีล็อตแรก เอกชนกลุ่มนี้ ให้การตรงกันว่า เดินทางไปพบ “นักการเมืองใหญ่” ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเจรจาซื้อขายข้าวกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด
แต่ในชั้นพนักงานอัยการเรียกไปทำคำเบิกความต่อศาลฎีกาฯคดีข้าวจีทูจีล็อตแรก เอกชนกลุ่มนี้กลับอ้างว่า ไม่ได้เดินทางไปพบนักการเมืองใหญ่ แต่เดินทางไปพบ “ผู้ใหญ่” รายหนึ่ง เพื่อตกลงเรื่องธุรกิจการค้าข้าว กลายเป็นชนวนเหตุให้อัยการไม่นำพยานกลุ่มนี้ขึ้นเบิกความ พร้อมกับทำความเห็นแจ้งไปยัง ป.ป.ช. เพื่อขอให้เพิกถอนเอกชนกลุ่มนี้ออกจากการเป็นพยาน
ทว่าในการไต่สวนคดีข้าวจีทูจีล็อตสอง ป.ป.ช.ยังคงมีมติกันเอกชนกลุ่มนี้ไว้เป็นพยานเหมือนเดิม พร้อม ๆ กับมีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในสำนักงาน ป.ป.ช.เดินทางเข้าไปในเรือนจำ เพื่อสอบปากคำ “บุญทรง เตริยาภิรมย์” เกี่ยวกับเรื่องนี้
จนนำไปสู่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า “จำเลยสำคัญ” คดีระบายข้าวจีทูจีเก๊ “ซัดทอด” ว่า “นายใหญ่แดนไกล” เป็นคนโฟนอินเข้ามาสั่งการเกี่ยวกับการระบายข้าวจีทูจี โดยมี “นักการเมืองชื่อดัง” พรรคการเมืองใหญ่ ร่วมฟังด้วย และมีการมอบคลิปวีดีโอเป็นพยานหลักฐานชิ้นสำคัญให้แก่ ป.ป.ช. ไปไต่สวนแล้ว
แต่เรื่องนี้คงต้องรอการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงกันต่อไป เพราะ ป.ป.ช.ไม่มีการยืนยันว่ามีคลิปวีดีโอนี้เป็นพยานหลักฐานจริงหรือไม่
ทั้งหมดคือข้อเท็จจริงตามสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช.-คำพิพากษาศาลฎีกาฯ ในมหากาพย์คดีข้าวจีทูจีทั้ง 2 ล็อต จนนำไปสู่การเพิ่มชื่อ-แจ้งข้อกล่าวหาแก่ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” 2 อดีตนายกรัฐมนตรี “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย แกนนำกลุ่มวังบัวบาน ต้นสังกัดทางการเมืองของ “บุญทรง”
สุดท้ายภายในเดือน พ.ย.นี้ ป.ป.ช.จะมีการพิจารณาคดีนี้จริงหรือไม่ ต้องติดตามกัน
อย่างไรก็ดีการไต่สวนข้อเท็จจริง และการชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทุกรายยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด