เปิดศึกชิง ส.ส. เมืองคอน “ปชป.”ฟัด“รทสช.”แย่ง9ที่นั่ง
ภาพรวมของ “ตระกูลใหญ่เมืองคอน” ที่ต้องมาฟาดฟัน เพื่อช่วงชิงเก้าอี้ ส.ส. ในการเลือกตั้งรอบหน้า ซึ่งมีแต่คนกันเอง-คนเคยรักกัน ต้องมาห่ำหั่นเพื่อความอยู่รอดในสนามการเมือง
วันที่ 12 พ.ย. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นัดหมายเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครศรีธรรมราช มี “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคปชป. นำทัพด้วยตัวเอง
“อดีตเบอร์หนึ่งแดนสะตอ” หมายมั่นปั้นมือจะกวาด 9 ที่นั่ง จ.นครศรีธรรมราช ยกจังหวัด เพื่อกลับมาครองความยิ่งใหญ่ หลังการเลือกตั้งปี 2562 ต้องเสียเก้าอี้ ส.ส. นครศรีธรรมราช ให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไป 4 ที่นั่ง
โดย “จุรินทร์” เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร นำโดยกลุ่ม ส.ส. เก่า ประกอบด้วย นายชัยชนะ เดชเดโช นายประกอบ รัตนพันธ์ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ขณะเดียวกันมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ประกอบด้วย นายราชิต สุดพุ่ม นายพิทักษ์เดช เดชเดโช ว่าที่ร้อยโท ยุทธการ รัตนมาศ น.ส.ปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ นางอวยพรศรี เชาวลิต
ทว่าแค่เริ่มนับหนึ่งก็เริ่มเห็นรอยร้าวของ “ขุนพลเมืองคอน” แล้ว เมื่อ “ส.ส.ปุ้ย” น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส. เขต 8 นครศรีธรรมราช ขอโบกมือลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ หันไปซบพรรครวมไทยสร้างชาติ
ว่ากันว่า “พิมพ์ภัทรา” คือส.ส.ดาวรุ่งเมืองคอน ได้คะแนนเลือกตั้งมากที่สุดเป็นลำดับหนึ่งที่ 41,771 คะแนน ฝ่ากระแส “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม เอาชนะคู่แข่งได้มากที่สุด เมื่อตัดสินใจขอแยกทางเดิน ทำให้ “บิ๊กเนมประชาธิปัตย์” ถึงกับเสียดาย
โดยมีกระแสข่าวว่า “พิมพ์ภัทรา” ต่อคอนเนกชั่น “เพื่อนสนิท” เชื่อมไปยังเครือข่ายการเมืองของ “กำนันศักดิ์” นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฏร์ธานี รวมถึงเครือข่ายของ “ลูกหมี” ชุมพล จุลใส บิ๊กบราเธอร์ จ.ชุมพร ที่แม้จะไม่สามารถลงเล่นการเมือง แต่บารมีใน จ.ชุมพร ยังเบ่งบาน
ผนวกกับฐานเสียงในพื้นที่ที่ “ลูกบ้าน” มองเห็นความตั้งใจและการเข้าไปแก้ปัญหาในพื้นที่ ทำให้ฐานเสียงของ “พิมพ์ภัทรา” ใน จ.นครศรีธรรมราช ค่อนข้างเข้มแข็ง ช่องโหวที่ทิ้งไว้ให้พรรคประชาธิปัตย์ ต้องหาผู้สมัครมาลงแทน มีโอกาสน้อยมากที่จะชนะ “พิมพ์ภัทรา”
ส่งผลให้ “พิมพ์ภัทรา” จะเข้าไปผนึกกำลังกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีบรรดา อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช ที่อยู่คนละฝั่งกับ “ขั้วอำนาจใหม่เมืองคอน” ชักธงรบชิงแต้มการเมืองกันเอง
“ตระกูลแก้วภราดัย” นำโดย “วิทยา แก้วภราดัย” ที่ตัดสินใจลาออกพรรคประชาธิปัตย์ มานั่งกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ โดย “วิทยา” วางตัว “พูน แก้วภราดัย” ลงชิงเก้าอี้ ส.ส. เขต 1 แต่เป็นเขตเดียวกับ “รงค์ บุญสวยขวัญ” ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งหาก “รงค์” ย้ายตามมาพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจจะมีการเกลี่ยนพื้นที่กันใหม่
“ตระกูลเสนพงศ์” นำโดย “เทพไท เสนพงศ์” อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช แม้จะมีความขัดแย้งกับ “ประยุทธ์” อยู่บ้าง แต่หากตระกูลเสนพงศ์ตกขบวนรอบนี้ คงหาจุดรีเทิร์นทางการเมืองยาก
จึงต้องจับตา “เทพไท” ที่จะนำหน้าตระกูลเสนพงศ์ ย้ายมาซบพรรครวมไทยสร้างชาติ อาศัยกระแสของ “ประยุทธ์” กลับมายึดเก้าอี้ ส.ส. เมืองคอน ซึ่งอาจจะดีกว่าการร้องเพลงรอ “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลับมานำพรรค
“ตระกูลมาศดิตถ์” นำโดย “สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์” อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2562 พ่ายให้กับกระแส “ประยุทธ์” โดยในระยะหลังแทบไม่มีบทบาทในพรรคประชาธิปัตย์ แถมในพื้นที่โดนรัศมีของ “เดชเดโช” บทบัง ทำให้ “สุรเชษฐ์” ขอแยกทางออกมา และเตรียมจะเปิดตัวร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติ
“ตระกูลศักดิเศรษฐ์” แม้บทบาทของ “ชำนิ ศักดิเศรษฐ์” จะลดลง แต่ชื่อชั้นยังพอขายได้ “บิ๊กรทสช.” คาดหวังให้ตระกูลเศรษฐ์มาผนึกกำลังกัน เพื่อล้ม “ขั้วอำนาจใหม่เมืองคอน” แต่ด้วยความแนบชิดกับตระกูลเดชเดโช จึงค่อนข้างยากที่ดึงมาร่วมชายคา “รวมไทยสร้างชาติ”
ทั้งหมดคือภาพรวมของ “ตระกูลใหญ่เมืองคอน” ที่ต้องมาฟาดฟัน เพื่อช่วงชิงเก้าอี้ ส.ส. ในการเลือกตั้งรอบหน้า ซึ่งมีแต่คนกันเอง-คนเคยรักกัน ต้องมาห่ำหั่นเพื่อความอยู่รอดในสนามการเมือง