“ประธานรัฐสภา” ต้อนรับ “ปธน.เวียดนาม” โอกาสเยือนไทยร่วมประชุมเอเปค

“ประธานรัฐสภา” ต้อนรับ “ปธน.เวียดนาม” โอกาสเยือนไทยร่วมประชุมเอเปค

“ปธ.ชวน” ต้อนรับ “ปธน.เวียดนาม” โอกาสเยือนไทยร่วมประชุมเอเปค ฝ่ายเวียดนามปลื้ม ชวนขยายพันธ์ ต้นไม้เวียดนามในไทยสื่อถึงความสัมพันธ์ 2ประเทศเจริญงอกงาม

        นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ฐานะประธานรัฐสภา พร้อมด้วย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ฐานะรองประธานรัฐสภา ให้การต้อนรับ นายเหวียน ซวน ฟุก  ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และคณะ เข้าพบหารือ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย และเข้าร่วมการประชุมเอเปค ครั้งที่29   โอกาสนี้ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง นายไพจิต ศรีวรขาน ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เวียดนาม นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ร่วมต้อนรับด้วย

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการพบปะหารือครั้งนี้ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  ซาบซึ้งใจ และขอบคุณนายชวน ที่นำต้นยมชวน ได้รับมอบจากเวียดนาม เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี  และเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในปี 2536  โดยนายชวนได้นำมาเพาะพันธุ์ในจ.ตรัง จนปัจจุบันขยายพันธุ์แพร่หลายทั่วประเทศ สื่อถึงความสัมพันธ์ของ2ประเทศ ที่เจริญงอกงาม มาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความร่วมมือในด้านต่างๆ 

          ขณะที่นายชวน ได้ชื่นชมประชาชนเวียดนาม ที่ให้ความสำคัญ กับการสวมหมวกกันน็อกนิรภัย ในการขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งประเทศไทยยังคงมีปัญหาในเรื่องนี้ สำหรับการเยือนประเทศไทยของ ประธานาธิบดีเวียดนาม ครั้งนี้มีความสำคัญยิ่งเพราะเป็นการเยือนครั้งแรกที่ประมุขแห่งรัฐของเวียดนามมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในรอบ 24 ปี รัฐสภาของทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นอย่างยิ่ง มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ

 

“ประธานรัฐสภา” ต้อนรับ “ปธน.เวียดนาม” โอกาสเยือนไทยร่วมประชุมเอเปค

 

 

 

         และจากการพบปะหารือกันในวันนี้ฝ่ายไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามต่างเห็นพ้องที่จะกระชับและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี รวมถึงสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาของทั้งสองประเทศด้วย  

 

         นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่เวียดนามและไทยเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง (Strengthened Strategic Partnership) และมีแผนพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจที่จะส่งเสริมและสนับสนุนด้านการค้าและการลงทุน รวมถึงมีความตกลงว่าด้วยความร่วมมือและช่วยเหลือระหว่างกัน ตลอดจนการสถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง (Sister Cities) ซึ่งล้วนแต่จะเป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ทั้งด้านการเมืองและความมั่นคง ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และความอยู่ดีกินดีของประชาชนของทั้งสองประเทศ