เกม “แยกทาง” - รอยร้าว "กัญชา” จับตาเร่งปัจจัย “ยุบสภาฯ”
เมื่อ 2ป. ร่วมงานพรรคเดียวไม่ได้ เกิดเป็นแรงกระเพื่อมทางการเมืองที่ เร่งเกมแตกหัก ขณะที่ เกมสภาฯ ชนวน "ร่างกฎหมายกัญชา" ยังเพิ่มรอยร้าว จับตา สถานการณ์เร่งเกม "ยุบสภา"
หลังการประชุมเอเปค 2022 “คอการเมือง” ฟันธงว่า การเมืองเข้าสู่โหมเลือกตั้งแบบเต็มสูบ ปรากฎการณ์ที่ถูกจับตาต่อจากนั้น คือ ความเคลื่อนไหวของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจเต็มที่จะ “ประกาศยุบสภาฯ”
และ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ฐานะ “ผู้มากบารมี” และ “พี่ใหญ่ 3 ป.”
”เมื่อค่ำวันที่ 21 พฤศจิกายน มีรายงานข่าวความเคลื่อนไหวของ “2 ป.” ออกมาจากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ ว่า “บิ๊กตู่” เข้าไปคุยกับ “บิ๊กป้อม” ถึงทิศทางการเมืองในอนาคต
ช่วงหนึ่งของการพูดคุย มีรายงานว่า “บิ๊กตู่” ขอลาเพื่อไปทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ
สิ่งที่ถูกแปลความ คือ “ขอแยกทาง” ไม่เข้าสังกัด “พรรคพลังประชารัฐ” ตามที่ “ส.ส.พลังประชารัฐ” เรียกร้อง ฐานะที่ปี 2562 “พลังประชารัฐ” เป็นพรรคการเมืองที่เสนอชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ทำให้ “สังคมการเมือง” จับตาถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ป.ที่ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งแบ่งข้างของนักการเมือง ที่อาจเป็นปัจจัยเร่งให้ “ยุบสภา” เกิดขึ้นก่อนครบเทอม
ก่อนหน้านี้ “พล.อ.ประวิตร” เคยเปรยไว้เช่นกันว่า หลังจบประชุมเอเปค นักการเมืองต้องลงสนามเพื่อแข่งขันในเกมเลือกตั้ง
ทว่า มีมุมมองจาก “สุทิน คลังแสง” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า “ยุบสภา” จะไม่เกิดขึ้นเร็ววันนี้ แม้ 2 ป.จะมีความขัดแย้งถึงขั้นต้องแยกตัว ไม่ร่วมงานพรรคการเมืองเดียวกัน เพราะปัจจัยของ “ความได้เปรียบในการเลือกตั้ง” ของ “ประยุทธ์” ยังไม่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน “เพื่อไทย” ยังมีกระแสความนิยมที่นำเหนือ “ประยุทธ์”
ยุบสภาวันนี้ ฝ่ายที่จะได้ประโยชน์จากเกมเลือกตั้งมากที่สุด คือ “พรรคเพื่อไทย” ไม่ใช่พรรคของ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา”
อย่างไรก็ดี ปัจจัยขัดแย้งของ “2 ป.” จะเป็นปัจจัยเร่งให้ยุบสภาจริงหรือไม่ มีสิ่งที่ต้องมองคู่ขนาน คือ การทำงานในสภาฯ แม้ “ประยุทธ์” จะลอยตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับ “สภาฯ” และปล่อยให้ “ประวิตร” กำกับเกมสภาฯ
ทว่า ปม “ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง” กำลังจะกลายเป็นเอฟเฟคที่สะเทือนไปยัง “รัฐบาล-ประยุทธ์” หลังจากที่ “พรรคภูมิใจไทย” กลายเป็นตำบลกระสุนตก “ถูกถล่ม” เพราะนโยบายกัญชาเสรี และถูกเกมขอสภาฯ โจมตี ว่า ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ นั้น ไม่ใช่เพื่อ “การแพทย์” แต่เป็นกัญชาเพื่อ “อนุทิน”
แม้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข จะให้สัมภาษณ์ กระตุกถึงมารยาททางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลหลายครั้ง แต่ “พรรค” ที่เสียประโยชน์ทางการเมือง ยังไม่ลดราวาศอก และมีแนวโน้มจะใช้ "เสียงโหวต” ในสภาสั่งสอน “ตีตกร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง”
ล่าสุด “คารม พลพรกลาง” งูเห่าภูมิใจไทย ที่ทำงานใกล้ชิดบิ๊กภูมิใจไทย แถลงที่สภาฯ ยอมรับว่า จะลาออกจาก ส.ส.พร้อม “ส.ส.งูเห่า” จากพรรคการเมืองต่างๆ เช่น ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ รวมถึงก้าวไกล และเพื่อไทย ประมาณ 20 -30 คน เพื่อ แสดงออก ถึงการไม่ยอมรับกระบวนการเล่นเกม-บล็อคกฎหมายที่จำเป็นต้องตราเพื่อประโยชน์ประชาชน
หากเป็นเช่นนั้นจริง “คารม” เชื่อว่า จะกลายเป็นปัญหาของการควบคุมเสียง เป็นปัจจัยเร่งเกมเร็ว ให้ “ยุบสภา”
ด้วยสภาพของสภาฯ “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ที่แพ้โหวตต่อเนื่อง กลายเป็นภาพ “สภาล่มซ้ำซาก” สะท้อนให้เห็นว่า ไร้ประสิทธิภาพในการทำงาน
ยิ่งมีความขัดแย้งระหว่าง “พรรคร่วมรัฐบาล” ผสมกับการแยกทางกันเดินของ “ประยุทธ์-ประวิตร” สะท้อนถึงสภาพ “เรือเหล็กที่รอวันอับปาง”
คือ ปัจจัยที่เป็นปัญหาทางการเมือง ที่ส่งถึงสภาพเศรษฐกิจ ความมั่นคง และเกิดการทวงถาม "คืนอำนาจให้ประชาชน” และจัดเลือกตั้งใหม่ เพื่อเสถียรภาพ และการฟื้นฟูสภาพปัญหาและเศรษฐกิจของบ้านเมือง.