"อภิสิทธิ์-สมชัย-เจษฎ์" ปัดเดาคำวินิจฉัย "ศาลรธน." ปมกม.เลือกตั้ง

        สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ ประเทศไทย ร่วมจัดเวทีเสวนา เรื่อง กติกาเลือกตั้งใหม่ ใครได้ประโยชน์  โดยมีนักการเมือง และนักวิชาการเข้าร่วมเวที 

 

          โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี  และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตกั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ... ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ว่าเนื้อหาของร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มีทั้งส่วนที่ขัดและไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ แต่หากจะให้ราบรื่นที่สุด คือ ชี้ว่าไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และเพื่อไม่ให้มีปัญหาข้อถกเถียง ศาลรัฐธรรมนูญควรมีคำวินิจฉัยที่ชัดเจน  หรือหากเกิดกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.ขัดกับรัฐธรรมนูญ ตนไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะหาทางออกด้วยการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพราะไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายบริหาร

 

            ทางด้าน นายเจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย กล่าวว่าปัญหาของระบบเลือกตั้งที่เกิดขึ้น เพราะสภาฯ​ไม่ดำเนินการทำให้มีความชัดเจน รอบคอบ ซึ่งกติกาเลือกตั้งที่ยกร่างเสนอหากไม่สมบูรณ์ สภาฯมีหน้าที่ต้องแก้ไข แต่ที่ผ่านมาพบว่าไม่แก้ไข จนเกิดปัญหา   กล่าวคือ  วาระแรกเอาสูตรหาร 100 วาระสองเอาสูตรหาร 500 และวาระ 3 ตัดสินใจไม่ได้   จึงต้องส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

            "แต่การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญหากชี้ว่าขัด อาจจะบอกว่า ขัดรายมาตราใดบ้าง แต่ผมมองว่าไม่ใช่หน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นอาจเป็นประเด็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะสามารถบอกได้ไหมว่า เพราะรัฐธรรมนูญขัดกันเองจึงต้องไปแก้ที่รัฐธรรมนูญ" นายเจษฎ์ กล่าว 

         ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)  กล่าวโดยเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยร่างพ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ให้ผ่านเหมือนกับ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง จากนั้นเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง หรืออาจตัดสินให้ว่า ไม่ผ่าน เพราะหากให้ผ่านพรรคการเมืองขนาดใหญ่จะได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแท้จริง เช่น พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ  30 คน ขึ้นไป 

          "หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ผ่าน ผมขอให้ นายกรัฐมนตรี  เชิญ กกต.หารือ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ และต้องเสนอร่างกฎหมายใหม่ทันที เพื่อให้รัฐสภาเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด แต่หากสภาทำไม่เสร็จ ก็ต้องหาทางออก เช่น พ.ร.ก.หรือออกเป็นคำสั่งประกาศ ถ้าวาระ1 รับหลักการแล้ว ควรนำร่างในวาระหนึ่งมาใช้เป็นกติกาการเลือกตั้ง" นายสมชัย กล่าว