“นิกร” ขอบคุณศาลวินิจฉัย "พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส." ช่วยการเมืองไทยเดินหน้า
“นิกร” ขอบคุณศาลรธน. วินิจฉัยร่างกม.ลูกเลือกตั้งส.ส. ช่วยการเมืองไทยเดินหน้า จี้ กกต. รับข้อสังเกตกมธ. ปมแบ่งเขตเลือกตั้ง หวังลดความสับสน
ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบ(พ.ร.ป.)รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... รัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกรณีสมาชิกรัฐสภาเสนอ เรื่อง ขอให้ตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพ.ร.ป. ว่า ไม่มีข้อความใดในมาตราที่ถูกร้อง ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด และเป็นการตราขึ้นถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่ตนเองเชื่อว่าจะผ่านการวินิจฉัยไปด้วยดี เนื่องจากเป็นร่างกฎหมายที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.)
โดยข้อเสนอของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้มีหน้าที่ และอำนาจในการปฏิบัติการตามกฎหมาย และเป็นหน่วยงานที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง
อีกทั้งร่างพ.ร.ป.ได้ผ่านการตรวจสอบทบทวนเนื้อหาโดยคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกขั้นหนึ่ง ก่อนที่ครม.จะเสนอต่อรัฐสภา จึงเชื่อมั่นว่าร่างพ.ร.ป.จะมีเนื้อหาที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญตามคำแถลงของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะแจ้งคำสั่งมายังรัฐสภา
จากนั้นประธานรัฐสภา จะส่งไปยังนายกฯ ซึ่งจะต้องดำเนินการนำร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายตามมาตรา 145 ของรัฐธรรมนูญต่อไป ตนจึงขอขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ได้วินิจฉัยกรณีนี้ได้รวดเร็ว ทันต่อการที่ระบบการเมืองไทยจะดำเนินต่อไปได้โดยไม่มีปัญหากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
นายนิกร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม กกต.ควรนำประเด็นการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวในชั้นคณะกมธ.วิสามัญ ที่เห็นชอบร่วมกันมาก่อนแล้ว แต่ไม่ได้ถูกนำมาบัญญัติไว้ด้วยในร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ผ่านคำวินิจฉัยแล้วฉบับนี้ไปอย่างน่าเสียดาย ในเรื่องเกี่ยวกับวิธีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. และข้อสังเกตเกี่ยวกับการกำหนดบัตรเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนต่อประชาชนผู้ใช้สิทธิ เช่น บัตรเลือกตั้งของปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหลักการที่ดี และจะเกิดประโยชน์กับทั้งผู้สมัคร และผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จึงขอให้กกต.รับข้อสังเกตดังกล่าวไปปฏิบัติในเชิงบริหาร เพื่อให้เกิดประโยชน์เพิ่มเติมต่อประชาชน และประเทศชาติต่อไป