พท.ส่อเดือด"จิรายุ" ลั่นทบทวนเส้นทางการเมือง หลังพรรคเปิดตัว "ศักดิ์ดา"

พท.ส่อเดือด"จิรายุ" ลั่นทบทวนเส้นทางการเมือง หลังพรรคเปิดตัว "ศักดิ์ดา"

เพื่อไทย ส่อเดือด"จิรายุ" ประกาศทบทวนเส้นทางการเมือง หลังเปิดตัว "ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์" อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล คู่กรณีเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.กาญจนบุรี

หลังจากที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง 57 คนจำนวนนี้มีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี 

ล่าสุดนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีข่าวพาดพิงถึงตนในข้อพิพาทระหว่างตนกับนายศักดา นั้นตนขอยืนยันว่า จริงเต็มคาราเบล แต่เป็นข้อพิพาทในการตรวจสอบทุจริตของพวกข้าราชการกังฉินที่ตนทำมาตลอดนับ 20ปี

ตนทำงานรับใช้และต่อสู้พวกเผด็จการให้กับพรรคเพื่อไทยมา 10 กว่าปี ก็ไม่คิดว่าพรรค จะจัดได้เต็มคาราเบล กับตนเช่นนี้เหมือนกัน ทำให้ตนต้องคิดมากขึ้นในเรื่องแนวทางการเมืองนับจากนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่ที่ให้ความเคารพนับถือของพรรคเรียกให้ตนไปพูดคุยแล้วก็ยืนยันแล้วแต่ผล ออกมาเป็นเช่นนี้ตีความได้อย่างเดียวว่าตนไม่มีคุณค่ากับพรรคเพื่อไทยอีกต่อไป
   

 นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า อย่าคิดว่าคนที่เคยด่าร้ายผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคเป็นปรปักษ์ของพรรคมาตลอดจะทำอะไรกับพรรคเพื่อไทยก็ได้ อยากจะไปก็ด่าพรรคเอาใจ 3ป. อยากจะกลับมาก็ฉเลีย

ส่วนกลไกการขับเคลื่อนด้านติดตามตรวจสอบทุจริต ของตนยังเดินอย่างต่อเนื่องนปัจจุบันมีคดีความของนายศักดา  คณะกรรมาธิการกิจการศาลฯและตนได้ยื่นฟ้องไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ปปช. เรื่องการทุจริตของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลแล้ว

ซึ่งมีอีก3สำนวน ในการตรวจสอบทุจริตของกรมและการใช้เงินกองทุนพัฒนาทรัพยากรน้ำบาดาล ปีที่ผ่านมา ซึ่งยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้วซึ่งมีทั้งเอกชนและข้าราชการระดับสูงและรองอธิบดีจนถึงผู้อำนวยการกองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต

เพราะฉะนั้น FC จิรายุ ขอให้มั่นใจได้ว่าใครจะเข้ามาบ้านนี้ด้วยวิธีการแบบใดตนไม่รู้รู้อย่างเดียวว่าถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่ตนเคารพนับถือต้องอธิบายให้ได้ ไม่เช่นนั้นหลักการ ที่ตนศรัทธามาตลอด 10 กว่าปีจะสิ้นไป 

นายจิรายุกล่าวอีกว่าปีที่แล้วต้นต่อสู้กับเรื่องเหล่านี้จนบอบช้ำพรรคก็ไม่เคยให้ความช่วยเหลืออะไรตนอยู่แล้ว ตนถูกนายศักดากลั่นแกล้งไปยื่นฟ้องที่สายบุรีปัตตานี พื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งเรื่องขี้หมามาก แต่หวังให้ตนเสี่ยงชีวิต เดชะบุญที่มี บ้านใหญ่ปัตตานี พี่ โน่ “ซูการ์โน มะทา “ดูแลความปลอดภัยให้ตลอด

ตนต่อสู้คดีจนชนะและฟ้องกลับเรียกค่าเสียหายทั้งทางอาญาและทางแพ่งไป 25ล้าน  และนายศักดาก็ยังกลั่นแกล้งตนโดยใช้ตำแหน่งอธิบดียื่นร้องจริยธรรมตนต่อรัฐสภาจนมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและ กก.ลงมติว่าการร้องของนายศักดาไม่มีมูลความจริงให้ยกคำร้องและยังมีการร้องตนในเรื่องเดียวกันไปที่ ปปช.

โดยมีเจตนาพิเศษให้ตนติดคุกติดตะราง หมดอนาคตทางการเมือง ทั้งที่ตนประกอบคุณงามความดีมาตลอดชีวิตการเมืองจนเป็นที่ประจักษ์ในสังคม และตนไม่เคยรู้จักกับนายศักดาหรือมีเรื่องโกรธแค้นใดกันมาก่อนแม้แต่น้อย ยังทำตนได้ขนาดนี้ตนทำหน้าที่ในฝ่ายค้านในฐานะประธานกรรมาธิการ ไม่เคยรู้ จักเขามาก่อนซึ่งมารู้ทีหลังว่าเขามีข้อพิพาทกับสส.พรรคเพื่อไทยและด่าพรรคมาตลอด2-3ปีมานี้ 

“ถามจริงๆเถอะจะให้ตนยืนให้ตบหัวเล่นเฉยๆหรืออย่างไร ซึ่งนับจากนี้ตนจะเข้มข้นในการตรวจสอบประวัติของผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะ ทุกคนที่เคยอยู่พรรคตรงข้ามเพราะวันนี้พอจะแลนด์สไลด์แห่กันเข้ามา คนอยู่บ้านเป็นหมาเฝ้าบ้านแบบพวกตนควรปฎิบัติตนแบบไหนดี”

สำหรับตนถ้าไม่อยู่พรรคเพื่อไทยตนก็จะไปเป็นภาคประชาชนเพื่อติดตามตรวจสอบไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล จะใช้วิชาชีพที่เคยเป็นนักข่าวสืบสวนสอบสวนมาตลอดทั้งชีวิตทำงานเพื่อให้สังคมน่าอยู่ นายจิรายุกล่าว