อดีตนายกฯ “อานันท์” ชำแหละการแพทย์กระจุกแต่เมืองหลวง ลั่น กทม.ไม่ใช่ประเทศ
“อานันท์ ปันยารชุน” ชำแหละการแพทย์กระจุกอยู่แต่ในเมืองหลวงอย่างเดียวไม่กระจาย ชี้คนไทยส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่นสถาบันต่าง ๆ แต่ยังเคารพให้เกียรติสถาบันการแพทย์ของเมืองไทย
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ที่โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ มูลนิธิพฤษภาคมประชาธรรม และเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันจัดงานงานแสดงมุทิตาจิต ปาฐกถาและเวทีเสวนา “ทิศทางการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ “ เนื่องในโอกาสที่ นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ประธานกรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท ได้รับรางวัลผู้นำด้านสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยมีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานจัดงาน
นายอานันท์ กล่าวแสดงมุทิตาจิตว่า ชีวิตหมอเป็นชีวิตที่ประเสริฐที่สุดนอกจากทำให้เกิดความสุขให้ตัวเองแล้วยังทำให้เกิดมีความสุขของคนไข้และคนอื่นๆด้วย ในเมืองไทยปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ที่มีความคิดหัวก้าวหน้า ในการปรับปรุงโครงสร้าง นโยบาย เทคโนโลยี ไม่ติดกับจารีตประเพณีของสังคมในอดีต คนรุ่นใหม่เขาอยู่ในฐานะลำบากมาก เขามีความอึดอัดมาก เขารู้สึกอยู่ในประเทศ ในสังคม โดยไม่มีควางหวัง มองไม่เห็นอนาคตของส่วนรวม พวกหมอนี่แหล่ะที่จะมีบทบาทสำคัญมาก ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่นในสถาบันต่างๆของสังคมไทยไม่มีความเคารพนับถือ นักการเมือง รัฐธรรมนูญ ศาล ตำรวจ ทหาร ระบบราชการ และหลายอย่าง คนเราถ้าหมดความเชื่อถือ เชื่อมั่น ผิดหวังกับสิ่งเหล่านี้ ชีวิตก็เฉาง่าย แต่ยังมีสถาบันที่คนยังเชื่อถือ เคารพ ให้เกียรติ นั่นคือสถาบันการแพทย์ของเมืองไทย ไม่วาจะเป็นหมอ โรงพยาบาล
นายอานันท์ กล่าวว่า ตนก็ทำเรื่องปากแหว่งเพดานโหว่ โรงเรียนตาบอด ที่พ่อตนตั้งขึ้น เมื่อคลุกคลีกับเรื่องพวกนี้แล้วยิ่งเห็นว่าหมอไทยยิ่งสรรเสริญจริงๆ การมีสุขภาพที่ดีที่รัฐเข้าไปดูแล ถือว่าเป็นสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่การมาเรียกร้องว่างบประมาณไม่พอ แต่ต้องหาให้ได้ เมื่อ 20 กว่าปีตนได้รู้จักหมอสงวน นิตยารัมภ์พงศ์ บอกว่ามีแผนงานจะเสนอ อยากให้ตนในฐานนะอดีตนายกฯ กล่าวในงาน พูดเปิดตัวเรื่อง 30 บาท แต่หลายคนไปให้เครดิตนักการเมือง แต่เขาก็เก่งหยิบไปเป็นนโยบายทางการเมืองได้ แต่ความจริงแล้ว มันเกิดได้ เพราะหมอสงวน หมอมงคล ณ สงขลา อาจารย์อัมมาร สยามวาลา 3คนเป็นหลักใหญ่ ชีวิตตนจึงพัวพันกับหมอ แล้วมาเจอหมอชูชัย ตนติดใจที่หมอประเวศ วะสี คุยเรื่องหมอชนบท มีคำว่า รวยกระจุก จนกระจาย
“ในใจผมมันยิ่งกว่านั้นอีก การแพทย์กระจุกอยู่แต่ในเมืองหลวงอย่างเดียว ไม่กระจาย ผมก็บอกว่าอยากจะช่วย ราษฎรชนบทก็มีความสำคัญเท่าราษฎรในเมือง โรงพยาบาลดีๆ ก็สร้างไป แต่อย่าลืมชนบท กรุงเทพไม่ใช่ประเทศไทย จริงๆแล้ว ประเทศไทยยกเว้นกรุงเทพ อยากให้ส่งเสริมวิธีคิดแบบนี้ไว้ ส.ส. รัฐมนตรี ไม่ใช่เป็นนายกฯ แต่เป็นผู้รับใช้ประชาขน วิธีคิดแบบนี้คนรุ่นใหม่จะเข้าใจง่าย” นายอานันท์ กล่าว