ศึก กมธ.คมนาคม! “สุรเชษฐ์” โต้ “โสภณ” ปมแถลงฟอกขาว รฟฟ.สีส้ม
ศึก กมธ.คมนาคมฯ “สุรเชษฐ์-ทวี” นำทีมโต้ “โสภณ-นิกณ” ปมแถลงฟอกขาวประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชี้ไม่ถูกต้อง เอาความเห็นส่วนตัวมาพูด ไม่ใช่มติที่ประชุม ลั่นยอมไม่ได้ ต้องทบทวนบทบาทกัน
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2565 ที่รัฐสภา นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะ กมธ.การคมนาคม แถลงข่าวตอบโต้กรณี นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ประธาน กมธ.การคมนาคม และนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา รองประธาน กมธ.การคมนาคม ออกมาแถลงข่าวเชิงฟอกขาวให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งไม่เป็นไปตามมติที่ประชุม กมธ.การคมนาคม ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เนื้อหาที่แถลงเป็นความเห็นส่วนตัวของประธาน กมธ. ซึ่งมาจากพรรคภูมิใจไทยที่กำกับดูแลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไม่ได้เป็นมติที่ประชุม จึงไม่สามารถแถลงในนาม กมธ. ได้ ตนและทวีจึงต้องออกมาแถลงในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเป็นผู้นำเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้าที่ประชุม โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่เข้ามาชี้แจงตามนัด ตนจึงกดดันประธาน กมธ. ว่าฝ่ายนิติบัญญัติต้องใช้อำนาจตรวจสอบทางการเมือง ไม่ใช่บอกว่าเมื่อโครงการอยู่กับฝ่ายตุลาการแล้ว จะแตะต้องไม่ได้เลย ในกรณีนี้ทั้งสองอำนาจสามารถเดินหน้าไปพร้อมกันได้ ตนยืนยันว่า กมธ.ของสภาผู้แทนฯ สามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะโครงการใหญ่ ที่ต้องมีความโปร่งใส
“มติจริงๆ ของ กมธ.การคมนาคม เมื่อวานนี้ (15 ธันวาคม 2565) คือขอเอกสารประกอบ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตอบคำถาม ไม่ได้ฟอกใสตามที่ประธาน กมธ.การคมนาคมแถลง ทั้งประเด็นส่วนต่างราคาและการกีดกันการเสนอราคา นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกับคนอื่นๆ รวมทั้งนิกร พบว่าไม่มีใครใน กมธ.การคมนาคมบอกว่าเป็นมติที่ประชุมอย่างที่ประธาน กมธ.การคมนาคมแถลงข่าวไป เพราะเรื่องนี้ต้องมีการประชุมกันอีก” นายสุรเชษฐ์ กล่าว
นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นเรื่องใหญ่ มีความไม่ชอบมาพากลมาตลอด 2 ปีกว่า ซึ่งตนเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในเรื่องกระบวนการ 3 ป. กับปัญหาค่ารถไฟฟ้าแพง และได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง แถลงข่าวอย่างสม่ำเสมอ เรียกประชุมในอนุกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยพรรคภูมิใจไทย เพราะตนไม่อยากให้เกิดการฟอกขาว และต้องการฟังความจากทั้งสองฝ่าย โดยล่าสุดเรื่องนี้กำลังจ่อเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก จึงมีการพูดคุยระหว่างพรรคฝ่ายค้าน มีมติให้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 เพื่อให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อโครงการนี้ แต่ถูกเสียงข้างมากของรัฐบาลปัดตก และกลับมาฟอกขาวใน กมธ.คมนาคม ซึ่งตนและพรรคก้าวไกลยอมไม่ได้ เนื่องจากรัฐบริหารจัดการผิดพลาด มีการปั้นตัวเลข ปั่นโครงการเพื่อปันผลประโยชน์
“เรื่องนี้คงต้องพูดคุยในที่ประชุมครั้งหน้า ว่าการที่ใครก็ตามใน กมธ. จะไปแถลงข่าว ต้องเป็นมติที่ประชุม จะอ้างว่าเป็นประธานแล้วพูดอะไรในนาม กมธ. นั้นผิด ท่านพูดได้ในนามส่วนตัวเท่านั้น วาระนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของการประชุมทั้งหมด เพราะมีผลประโยชน์ส่วนต่างมหาศาล ดังนั้น ยอมไม่ได้ ต้องทบทวนบทบาทกัน อะไรควรทำ อะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม” นายสุรเชษฐ์ กล่าว