“ก้าวไกล” ถาม ทร.ปมเรือสุโขทัยล่ม เหตุทุ่มงบซื้อเรือดำน้ำ ขาดการซ่อมบำรุง
“พิจารณ์ ก้าวไกล” ตั้งคำถามถึง “กองทัพเรือ” ปมเรือหลวงสุโขทัยล่ม เพราะตั้งงบซื้อเรือดำน้ำ จนขาดงบซ่อมบำรุงหรือไม่ จับไต๋โยกย้ายเปลี่ยนแปลงงบปี 63-64 ลั่นจะติดตามให้ถึงที่สุด ชี้ครั้งนี้ไม่ใช่สูญเสียแค่กำลังพล แต่เสียศักยภาพป้องกันประเทศด้วย
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2565 นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่เรือหลวงสุโขทัยที่อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 19 ไมล์ทะเล ประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรง จนทำให้มีกระแสน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และได้จมลงใต้ทะเลแล้วในช่วงดึกของวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรือรบหลักของกองทัพเรือไทยที่จมด้วยสภาพอากาศหรือเหตุขัดข้องทางเทคนิคมาก่อน เรือหลวงที่จมไปหลายลำก่อนหน้าล้วนถูกโจมตีจากอริราชศัตรู หรือถูกจมโดยกองทัพเองจากความขัดแย้งทางการเมือง
นายพิจารณ์ กล่าวว่า ความเสียหายจากการสูญเสียครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงชีวิตของทหารประจำเรือ หรือมูลค่าเรือที่อยู่ในหลักหลายพันล้านบาท แต่ยังหมายถึงการสูญเสียศักยภาพการป้องกันประเทศด้วย เพราะเรือที่มีขีดความสามารถในระดับเดียวกับเรือสุโขทัย เหลือเพียง 4 ลำเท่านั้น
นายพิจารณ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ตนติดตามงบประมาณกองทัพ โดยเฉพาะโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือมาโดยตลอด ขอตั้งข้อสังเกตว่า เหตุที่เรือสุโขทัยจมลงจากพายุ เป็นเพราะความผิดพลาดของลูกเรือ ผู้บังคับการเรือ หรือจากความผิดปกติของระบบบังคับการต่างๆของเรือ เช่น เครื่องยนต์ เครื่องสูบน้ำ เป็นต้น เพราะหากเกิดจากสาเหตุหลัง ย่อมหมายความว่ากระบวนการบำรุงรักษาของกองทัพเรือมีปัญหา ซึ่งตนไม่แปลกใจ เพราะหลายปีที่ผ่านมาในการจัดทำงบประมาณ กองทัพเรือจัดสรรงบจำนวนมากเพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำ, โครงการต่างๆที่สนับสนุนเรือดำน้ำ และยุทโธปกรณ์อื่นๆ จนต้องลดงบประมาณในส่วนอื่นๆลง นอกจากนั้นในส่วนของงบประมาณในการซ่อมบำรุงและส่งกำลังบำรุง ตนพบว่าการเบิกจ่ายล่าช้า ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ทั้งปีงบประมาณ 2563-64 แต่กลับมีการโอนเปลี่ยนแปลงงบ ไปซื้อยุทโธปกรณ์อื่นที่ไม่ได้ของบผ่านสภา ไม่ว่าจะเป็น ยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบก, ยานเกราะ 4ล้อ เป็นต้น
นายพิจารณ์ กล่าวด้วยว่า ตนรอแถลงการณ์จากกองทัพเรือ ว่าจะมีความคืบหน้าในการหาสาเหตุของเรือจมครั้งนี้อย่างไร และในฐานะกรรมาธิการการทหาร จะติดตามเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด เพื่อให้งบประมาณของประเทศถูกใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศและประสิทธิภาพการรบของกองทัพไทยอย่างแท้จริง ไม่ใช่การใช้งบเพื่อหาเงินทอน