“โฆษกรัฐบาล” ยัน นายกฯ ไม่ปกป้อง “อธิบดีอุทยานฯ” สอบสวนเต็มที่ ไม่มีแทรกแซง
“โฆษกรัฐบาล” แจง “นายกฯ” เปิดทางสอบ “อธิบดีกรมอุทยานฯ” เรียกรับเงิน อย่างเต็มที่ ถึงเซ็นเข้ากรุ ช่วยราชการสำนักนายกฯ หวัง ให้เกิดความโปร่งใส ไร้การแทรกแซง ยัน ไม่ปกป้องใคร
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จับกุมนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรณีเรียกรับเงินแลกกับการแต่งตั้งโยกย้าย ว่าเป็นประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนทำงานได้อย่างสะดวกไร้ข้อครหา นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งให้นำตัวเข้ามาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยใช้อำนาจ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2553 มาตรา 11 ข้อ (4) นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลมีอำนาจ (4) สั่งให้ข้าราชการซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรมหนึ่งมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยจะให้ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิมหรือไม่ก็ได้ ในกรณีที่ให้ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม ให้ได้รับ เงินเดือนในสำนักนายกรัฐมนตรีในระดับ และขั้นที่ไม่สูงกว่าเดิม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจนายกรัฐมนตรีต้องการให้เกิดความโปร่งใสที่สุดในการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งการลงนามในคำสั่งดังกล่าวนั้น เพื่อไม่ต้องการให้เกิดการแทรกแซง และให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการสอบสวนได้อย่างเต็มที่
“นายกรัฐมนตรีไม่ได้ต้องการปกป้องความผิดของผู้ใด และต้องการให้เจ้าหน้าที่สืบสวน หาข้อเท็จจริง สอบสวนด้วยความโปร่งใส ไม่มีการแทรกแซง เพื่อให้เกิดความกระจ่างในสังคม ซึ่งหนึ่งในข้อปฏิบัติในการทำงานที่นายกรัฐมนตรียึดถือมาตลอดคือ ตั้งใจจะแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกแวดวง ต้องโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้” นายอนุชาฯ กล่าว