“เพื่อชาติ” เอาใจ สายฟิตวัยเกษียณ ชู นโยบายยืดเวลาจ้างงาน ใช้ Body age ชี้วัด

“เพื่อชาติ” เอาใจ สายฟิตวัยเกษียณ ชู นโยบายยืดเวลาจ้างงาน ใช้ Body age ชี้วัด

“เพื่อชาติ” ตีปี๊บ นโยบายเอาใจวัยเกษียณ เป็นของขวัญปีใหม่ ขยายอายุการจ้างงานในหน่วยงานรัฐ-เอกชน ใช้อายุร่างกายเป็นตัวชี้วัดสมรรถนะ ตามแต่ความถนัดในสาขาอาชีพ “ยงยุทธ” ออกโรงหนุน ชี้ คนกลุ่มนี้เป็นพลังของชาติ หารายได้ให้ครอบครัว ลดภาระงบประมาณดูแล ในยุคสังคมสูงวัย

ที่พรรคเพื่อชาติ พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และ นพ.วิชัย ทวีปวรเดชโฆษกพรรคฯ ร่วมแถลงข่าวถึงแนวนโยบายของพรรคว่า ในปีพ.ศ.2566 พรรคเพื่อชาติ ขอมอบของขวัญปีใหม่ให้กับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่อยู่ในวัยหลังเกษียณอายุราชการและการทำงานในภาคเอกชน ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป โดยการมอบนโยบายอายุเป็นเพียงตัวเลขโดยปรับเปลี่ยนการจ้างแรงงานบุคคลที่ดูเพียงแค่อายุไม่เกิน 60 ปี เท่านั้น แต่เปลี่ยนมาพิจารณาการจ้างงานด้วยการใช้อายุร่างกาย ( Body Age) เป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำงานโดยไม่คำนึงถึงอายุเกิดเพียงอย่างเดียว 

โดยการประเมินจากสุขภาพและสมรรถนะของร่างกาย แทนการใช้อายุจากวันเกิดในการทำงาน นโยบายนี้จะทำให้ลดสังคมผู้สูงอายุ (Ageing Social) ลงได้ โดยพิจารณาจากผลการประเมินร่างกายของผู้สูงอายุ กล่าวคือ หากผลการประเมินระบุว่าเป็นผู้ที่มีสมรรถนะร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี และสามารถทำงานในภาครัฐหรือภาคเอกชนได้ รัฐก็จะพิจารณาจ้างผู้สูงอายุเข้าทำงานในแต่ละสายงานท่ีจำเป็นและเหมาะสมกับความความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ตลอดจนความขำนาญงานตามความถนัดโดยผู้สูงวัยดังกล่าวจะไม่ถูกจำกัดอายุการทำงาน เพียงแค่มีอายุเกิน 60 ปี เท่านั้น ซึ่งการประเมินความรู้ความสามารถ สุขภาพ และสมรรถนะทางร่างกาย ซึ่งหากการตรวจสมรรถนะร่างกายไม่ผ่าน ก็ให้ใช้อายุเกิดเหมือนเดิมต่อไป 

“เพื่อชาติ” เอาใจ สายฟิตวัยเกษียณ ชู นโยบายยืดเวลาจ้างงาน ใช้ Body age ชี้วัด

นายยงยุทธ ติยะไพรัช  วิทยากรพิเศษ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับนโยบายของพรรคเพื่อชาติ ในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนจากแนวคิดเดิมที่มองว่าผู้สูงอายุเป็นภาระของประเทศมาโดยตลอด ก็จะกลับทำให้มองเห็นว่าผู้สูงอายุคือพลังของประเทศชาติและครอบครัว สามารถทำงานหารายได้ให้กับครอบครัว นอกจากจะทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติในเรื่องของการจ้างแรงงานแล้ว ยังสามารถลดภาระงบประมาณของรัฐบาลในเรื่องค่าใช้จ่ายบำเหน็จบำนาญให้กับผู้สูงอายุที่เป็นข้าราชการหลังเกษียณ ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากในแต่ละปี  ตลอดจนยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้เกษียณอายุราชการในภาครัฐและภาคเอกชนที่มีร่างกายแข็งแรงและต้องการที่จะทำงานให้กับแต่ละองค์กรหลังจากอายุ 60 ปี อีกด้วย