"ชลน่าน" ยันไม่ปกป้อง ปม "อดีตรองนายกฯ" เป็นชู้ "ยงยุทธ"ลั่นไม่ใช่แน่นอน
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันไม่ปกป้อง ปม "อดีตรองนายกฯ" เป็นชู้ เผย "ทนายตั้ม"เป็นสมาชิกพรรค -หวังดีเพื่อไทย ด้าน "ยงยุทธ" ปฏิเสธไม่ใช่แน่นอน
ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายษิธา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" ทนายความชื่อดัง ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของอดีตรองนายกฯ มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับภรรยาของบุคคลอื่น และมีการโยงมาที่อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า เพิ่งทราบกรณีดังกล่าวเพราะเท่าที่ติดตามข่าวก็ยังไม่ได้มีการระบุว่าเป็นใครสมัยไหนแต่ถ้าเกี่ยวข้องกับพรรค พรรคก็คงต้องมาดูรายละเอียดว่าเกิดขึ้นสมัยนั้นจริงหรือไม่และเป็นใคร พฤติการณ์เกี่ยวเนื่องมาถึงปัจจุบันหรือไม่อย่างไร
นพ.ชลน่าน กล่าวว่าโดยรวมเป็นภาพที่สังคมไม่ยอมรับอยู่แล้วยืนยันว่า พรรคไม่สนับสนุนส่งเสริมขอให้ว่ากันไปตามข้อกฎหมายหรือมาตการทางสังคมเรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายโดยเฉพาะการใช้ตำแหน่งหน้าที่ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของจรรยาบรรณและศีลธรรม
เมื่อถามว่า หากมีการเปิดชื่อแล้วพบว่าเป็นอดีตรองนายกฯพรรคเพื่อไทยจริง ในฐานะหัวหน้าพรรคจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า ก็ต้องดูว่ามีความเกี่ยวข้องกับพรรคด้านไหน อย่างไรซึ่งต้องไปดูข้อเท็จจริงเป็นหลัก ซึ่งก็ต้องว่าไปตามข้อบังคับ ที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน แต่หากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและปัจจุบันบุคคลดังกล่าวไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้ว ก็อาจจะไม่มีอำนาจที่ไปตรวจสอบ แต่ก็เป็นเรื่องที่ควรต้องทำให้มีความชัดเจนเกิดความประจักษ์ ซึ่งพรรรคก็ต้องเข้าไปดู
ส่วนที่นายษิธา ระบุอักษรย่อ "ย" นพ.ชลน่าน กล่าวว่าต้องขอไปตรวจสอบ
เมื่อถามถึงกรณีมีการเปิดชื่อในช่วงนี้ที่กำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อหวังผลทางการเมืองรวมถึงการดิสเครดิตพรรค นพ.ชลน่านกล่าวว่า มันก็คิดได้เท่าที่ดูข้อเท็จจริง มีการระบุว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมาเป็นปีแล้วมีการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและมีการฟ้องร้องรับผิดชอบกันแล้ว เพียงแต่ว่ายังมีการข่มขู่คุกคาม
"ทนายตั้มเขาก็เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเขาอาจจะออกมาเปิดเผยในมุมที่ปกป้องพรรคก็ได้ หน้าที่สมาชิกพรรคก็ต้องปกป้องเกียรติยศชื่อเสียงพรรคการ หากใครมาทำอะไรให้พรรคเสียหายเขาก็มีหน้าที่ออกมาปกป้องก็มองในมุมนั้นได้เช่นกัน"
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า เรื่องนี้คงไม่มีการหลังไมค์ไปคุยกับนายษิทธา เพราะต้องมีความชัดเจนซึ่งเรามีคณะกรรมการอยู่แล้ว หากมีการขอไม่ให้เปิดทั้งพรรคและทนายตั้มจะไปตอบสังคมได้อย่างไร เรื่องนี้ถ้ามองมุมบวกเป็นการเอาสิ่งที่มิชอบออกไป ขณะนี้ยังมองมุมบวกว่าเขาปกป้องพรรค แต่ถ้าพิสูจน์ว่ามีเจตนาทำลายพรรคก็คงจะมีบทลงโทษอาทิ การขับออกต่อไป
ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามแ ละรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลไปยังทนายตั้ม ทราบว่าเป็นรองนายกฯในสมัยรัฐบาล ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยช่วงนั้นมีนักการเมืองที่ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ในพรรคเพื่อไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้งนี้หากพบว่าเป็นคนของพรรคเพื่อไทย ตนจะขอให้ นพ.ชลน่าน ดำเนินการ
“เมื่อเช้าที่ผ่านมา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกฯ โทรมาหาและปฏิเสธไม่ใช่ตัวเองแน่นอน เพราะอายุ 80 ปีแล้ว แต่ดูจากรูปและผิวพรรณยังไม่แก่เท่าไร โดยต้องเดาว่าเป็นใคร ส่วนตัวไม่มีคลิปและรูป แต่ติดต่อหาทนายตั้ม ก่อนทราบข้อมูลมาอยู่ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยในวันที่ 9 มกราคม ก็ต้องติดตามทนายตั้มแถลง” นายยุทธพงศ์กล่าว