ลอว์เฟิร์ม 1.8 ล้าน! ส่องธุรกิจ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ทนายดัง ปังทุกคอนเทนต์

ชื่อของ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” หรือ “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิงานทนายเพื่อประชาชน กำลังฉายแสงอย่างมากในช่วงเวลานี้

พลันที่เจ้าตัวออกมาแฉ “ภาพลับ” ระหว่างอดีตรองนายกฯอักษรย่อ “ย.” เล่นชู้กับภรรยาคนอื่น จนเกิดการกล่าวหาเรื่อง “ตบทรัพย์” นำไปสู่การฟ้องร้องกันนัวเนียในตอนนี้ โดย “ทนายตั้ม” ยืนกรานปฏิเสธข้อหาดังกล่าว

เบื้องต้น พรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธว่าอดีตรองนายกฯรายนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรค ขณะที่ “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” อดีตรองนายกฯสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมาปฏิเสธเช่นกันว่า รองนายกฯ ย. ไม่ใช่ตนเองเช่นกัน

ข้อเท็จจริงเหล่านี้ คงต้องรอผลการสืบสวนของตำรวจ ที่ตอนนี้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายแจ้งความกันไว้แล้ว

มาดูในมุมธุรกิจ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ทนายความชื่อดัง ที่กำลังถูกสาธารณชนจับตาตลอดหลายปีที่ผ่านมากันบ้าง

ประวัติส่วนตัว จบการศึกษาปริญญาตรี 2 ใบคือ คณะรัฐศาสตรบัณฑิต และคณะนิติศาสตรบัณฑิต ม.รามคำแหง หลังจากนั้นจบปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต ม.เกริก โดยเจ้าตัวเข้าสู่แวดวงทนายความตั้งแต่ปี 2547 และเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มจัดโครงการทนายพบประชาชน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำปรึกษาทางกฎหมายฟรี ก่อนร่วมกับทีมงานจัดตั้ง “ทีมงานทนายประชาชน” 

ต่อมาได้ร่วมกับหน่วยงานรัฐหลายแห่งสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เพราะเห็นว่าเป็นการให้ความรู้ทางด้านกฎหมายที่ดี เข้าถึงเด็กและเยาวชน กระทั่ง “ทนายตั้ม” ก่อตั้งมูลนิธิทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคมในปี 2559

ที่ผ่านมาเจ้าตัวว่าความให้คดีดัง ๆ หลายคดี โดยผลงานที่ทำให้ “ทนายตั้ม” เป็นที่รู้จัก เช่น คดีหวย 30 ล้านบาท คดีลุงพล-น้องชมพู่ เป็นต้น

“ทนายตั้ม” นั่งเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ 1 แห่ง ได้แก่

• บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด 

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2561 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 1 อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้นที่ 24 ห้องเลขที่ 2409 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจ กิจกรรมทางกฎหมาย ปรากฎชื่อนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2565 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ถือหุ้น 45% เท่ากับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ที่ถือ 45% ที่เหลืออยู่ในชื่อของ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ถือ 10%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 1,807,000 บาท รายจ่ายรวม 1,374,661 บาท เสียภาษีเงินได้ 19,853 บาท กำไรสุทธิ 412,502 บาท

ส่วนอีก 2 แห่ง คือ

• บริษัท มอนสเตอร์บายส์ จำกัด ประกอบกิจการจำหน่ายบัตรที่พัก บัตรร้านอาหารและบริการอื่นๆ แจ้งเลิกกิจการ (นายษิทรา เป็นกรรมการ และร่วมถือหุ้น 25%)
• บริษัท อเมทิส สกินแคร์ จำกัด ประกอบกิจการค้าเครื่องสำอางอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องใช้เสริมความงาม ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้าง (นายษิทรา เป็นกรรมการ ร่วมกับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด และ น.ส.ลลพร ใจดี)

ทั้งหมดคือข้อมูลในมุมธุรกิจของ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ทนายความชื่อดังที่อยู่ในสปอร์ตไลท์ทางสังคมในตอนนี้ จับคดีอะไรก็กลายเป็น "คอนเทนต์" ปังเสมอมา