สภาฯ ถกรายงาน กาสิโนแล้ว - ชวน บอกใช้เบี้ยประชุม2.3ล้าน-ส.ส.ค้าน

สภาฯ ถกรายงาน กาสิโนแล้ว - ชวน บอกใช้เบี้ยประชุม2.3ล้าน-ส.ส.ค้าน

รายงาน กาสิโนฯ เข้าสู่การพิจารณาแล้ว "ชวน" แฉ กมธ.ใช้เบี้ยประชุม 2.3ล้านบาท เปิดหัวมา ส.ส.รุมค้าน ชี้ ไม่ใช่รายงานเพื่อไฟเขียวให้เปิดบ่อนในประเทศ

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมสภาฯ ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาเป็นประธานการประชุม ได้เข้าสู่การพิจารณารายงาน ของ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมแพล็กซ์) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายและมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ เมื่อเวลา 16.10 น.  โดยก่อนเข้าสู่เนื้อหา นายชวนได้กล่าวระหว่าางรอ กมธ.ประจำที่ ว่า กมธ.คณะดังกล่าวมีการตั้งอนุกรรมาธิการ จำวนหลายชุด และใช้เบี้ยประชุมไปทั้งสิ้น 2.3 ล้านบาท ทั้งนี้ตนเชื่อว่าหากไม่มีปัญหาอะไรการพิจารณาจะแล้วเสร็จ และขณะนี้มีรายงานของกมธ.ที่รอพิจารณา 3 ฉบับ เป็นกมธ.สามัญ 1 ฉบับ และ กมธ.วิสามัญ 2 ฉบับ

         ขณะที่นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ฐานะกมธ. ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า กมธ.ได้ใช้เวลาศึกษานาน 240  วัน โดยได้ศึกษาครอบคลุมทุกมิติ และมีการวิจัยรองรับ

 

         ขณะที่การอภิปรายของสภาฯ นั้น พบว่ามี ส.ส.ที่คัดค้านรายงาน ดังกล่าว อาทิ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคปราชาติ อภิปรายตั้งข้อสังเกต พร้อมแสดงความไม่เห็นด้วยที่รายงานของกมธ. จะตั้งกาสิโนในพื้นที่ที่ไม่สมควร

         ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล  ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะกมธ.ฯ อภิปรายว่า การนำเสนอรายงานดังกล่ว ตนขอให้กมธ.ย้ำว่าไม่ใช่การสนับสนุนให้ตั้งบ่อน กาสิโนในประเทศ แต่เป็นเพียงการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการสร้างรายได้เขาประเทศ หากจะทำคาสิโน ควรมีปัจจัยในการพิจารณาเรื่องใดบ้าง สำคัญ คือ การคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน รวมถึงปัญหากาารฟอกเงิน และเชื่อว่าหากรัฐบาลจะทำ น่าจะเป็นรัฐบาลหน้า แต่เมื่อถึงช่วงดังกล่าวต้องมีประเด็นพิจารณา คือ ความน่าลงทุนจะมีหรือไม่ ทั้งนี้ ในการทำระยะ2-3ปีไม่น่าจะเป็นไปได้ และที่สำคัญต้องมีกระบวนการทำประชาพิจารณ์ หรือประชามติของประชาชนในพื้นที่ที่จะเปิดคาสิโน 

 

           ขณะที่นายสุทัศน์ เงินหมื่น ในฐานะกรรมาธิการได้ลุกขึ้นชี้แจง  การทำรายงานไม่ได้หมายถึงการมีอำนาจไปเปิดสถานบันเทิงครบวงจรหรือ กาสิโน เพียงศึกษารูปแบบ ส่วนการจะเปิดหรือไม่เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐบาล และหลังจากที่ได้รายงานต่อสภาฯ ถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจ ชี้มี 4 ประเด็น 1.ด้านกฎหมายการจัดเก็บรายได้ภาษี  2.การป้องกันแก้ไขปัญหาและผลกระทบศึกษาพื้นที่ความเป็นไปได้ 3.การลงทุนและรูปแบบการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร และ 4. รูปแบบธุรกิจเกมมิ่ง