“ลุงป้อม” จอมปาด ลีลา "บูรพาพยัคฆ์เฒ่า"

ฉายาใหม่ต้องมา เพราะเวลานี้วีรกรรมของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นชื่อว่า “ลุงป้อม จอมปาด” ไปเรียบร้อยแล้ว 

 เป็นที่รู้กัน คิวตรวจราชการของ พล.อ.ประวิตร ในห้วงเวลานี้ ย่อมแฝงไว้ด้วยการเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย

ก่อนหน้านี้ 17 ม.ค. ลุงป้อม ก็เพิ่งจะลาป่วยการเมือง ไม่ร่วมประชุม ครม. โดยให้เหตุผลว่า มีอาการอ่อนเพลีย หลังจากนำคณะลงพื้นที่ จ.พะเยา และลำปางเมื่อ 16 ม.ค. แต่จู่ๆ สายวันเดียวกัน ก็ไปปรากฎตัว ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ในชุดแจ็กเก็ตสีขาวโลโก้พลังประชารัฐ ที่บ้านลูกพรรค บุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี กับวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกอบจ.ราชบุรี สามี 

เป็นที่รับรู้กันว่า เป็นภารกิจด่วน ที่ลุงป้อมต้องไปบล็อก ส.ส.พรรค ไม่ให้ออกไปอยู่กับ“ลุงตู่” 

โดยเอ่ยทักพร้อมกับบอกว่า “เป็นอย่างไรกันบ้าง ยังรักกันอยู่หรือเปล่านะ แต่ฉันยังรักพวกแกนะ อุตส่าห์ลา ครม.เลยนะแกเอ๋ย” และยังเอ่ยไปถึงลุงตู่ว่า "เห็นว่านายกฯจะมาราชบุรี วันพฤหัสบดีนี้" ก่อนจะไฟเขียวว่า “ไปเถอะ ท่านเป็นนายกฯ ไปทำตามหน้าที่”

งานนี้ พี่ป้อม รู้หมาย น้องตู่ ที่จะลงพื้นที่ราชบุรีวันที่ 19 ม.ค. ท่ามกลางกระแสข่าวว่า มี ส.ส.ราชบุรี ลูกพรรคพลังประชารัฐบางคนจะย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงไม่พ้นถูกจับจ้องว่าต้องไปสกัดเลือดไหล ปาดหน้าคิวนายกฯ ลงไปเจรจาด้วยตัวเอง

ยังไม่นับ ปฏิบัติการในเย็นวันเดียวกัน (17 ม.ค.) ที่ “ประวิตร” นำลูกพรรคแถลงเปิดนโยบายแรก ท็อปอัพเงินในบัตรสวัสดิการเป็น 700 บาท ต่อเดือน 

3 วันถัดมา 20 ม.ค.2566 ประวิตร ในหมวกรองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.พิษณุโลก และ จ.นครสวรรค์ โดยสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ร่วมคณะไปด้วย

 เมื่อทีมบ้านป่ารอยต่อฯ รู้ข่าวนายกฯจะไปนครสวรรค์ จึงจัดคิวด่วนให้ลุงป้อมลงไปตรวจบึงบอระเพ็ดแบบเร่งรีบ ตัดหน้า “หิมาลัย” ที่จะพาลุงตู่ไปพิจิตร-นครสวรรค์ ปลายเดือน ม.ค. เป็นเป็นอีกวีรกรรมของ ลุงป้อม จอมปาด

เป้าหมายแรกคือ พิษณุโลก สันติ พร้อมพัฒน์ แม่ทัพเหนือตอนล่าง ได้จับมือกับมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก จัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก พรรคพลังประชารัฐ

เป้าหมายที่สองขยับลงมาพื้นที่นครสวรรค์ สันติ พร้อมพัฒน์ เพิ่งเปิดผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ ที่จะลงชนกับ สัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 3 ที่จะทิ้ง พปชร.ไปอยู่ รทสช.

สำหรับ ส.ส.สัญญา นิลสุพรรณ เป็นเด็กปั้นของ หิมาลัย ผิวพรรณ ซึ่งปลายเดือน ม.ค.2566 หิมาลัย ในฐานะแม่ทัพภาคเหนือของพรรค รทสช. ก็กำลังจะพา พล.อ.ประยุทธ์ มาตรวจราชการที่ จ.นครสวรรค์ และ จ.พิจิตร เช่นเดียวกัน

“พล.อ.ประวิตร” มาเยือนเมืองสองแควหนนี้ เพื่อพบกับทีม พปชร.ชุดใหม่ ภายใต้การนำของ มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก

ก่อนหน้านั้น ส.ส.พิษณุโลก พรรค พปชร. 2 คนคือ อนุชา น้อยวงศ์ ได้ย้ายไปภูมิใจไทย และมานัส อ่อนอ้าย เตรียมย้ายไปรวมไทยสร้างชาติ ตามลูกพี่-หิมาลัย ผิวพรรณ

 เขต 1 พิษณุโลก พรรค พปชร. ส่ง สจ.อั้ม-อดุลยวิทย์ วิวัฒน์ธนาฒย์ ลูกชายนายก อบจ.พิษณุโลก ลงเขต 1 ชนกับ หมออ๋อง-ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล

ส่วนเขต 2 ส่ง ศิริชิน ญาณพิทักษ์พงษ์ ประธานสภา อบจ.พิษณุโลก ท้าชิงแชมป์ผูกขาด นพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย

อนึ่ง มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ เป็น ส.ส.พิษณุโลก 3 สมัย ในนามพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน จึงรู้จักมักคุ้นกับสันติ พร้อมพัฒน์เป็นอย่างดี

 พลังประชารัฐ เมืองสี่แควเหมือนแพแตก “ประวิตร” จึงมอบสันติ พร้อมพัฒน์ จัดทีมผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ ที่มาจากนักการเมืองท้องถิ่น

ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ 4 คน ที่ย้ายพรรคไปแล้ว 2 คนคือ วีระกร คำประกอบ ไปอยู่พรรคภูมิใจไทย และสัญญา นิลสุพรรณ ไปพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) 

เหลือแต่ ภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 1 และนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ เขต 6 ที่ยังไม่ตัดสินใจว่า จะอยู่หรือไป

น่าจับตาว่า ภิญโญ นิโรจน์ จะย้ายไปค่ายบุรีรัมย์ตามข่าวลือหรือไม่ และมีข่าวเลือกตั้งครั้งหน้า ส.ส.ภิญโญ จะส่งลูกสาว บาส-ภัทราวดี นิโรจน์ ลงสมัคร ส.ส.นครสวรรค์ เขต 1 แทนตัวเอง

สำหรับ สัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ ลูกชายกำนันคนดังย่าน อ.บรรพตพิสัย โดย ส.ส.สมัยแรกคนนี้ เป็นคนสนิท หิมาลัย ผิวพรรณ

 ที่ผ่านมา สันติ พร้อมพัฒน์ วางตัวผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ในนครสวรรค์ไปแล้ว 3 คน ประกอบด้วยเขต 3 สจ.เปิ้ล-สุภัสสร คล้ายแจ้ง ส.อบจ.นครสวรรค์ เขต อ.ชุมแสง, เขต 4 จิตรา หมีทอง อดีตประธานสภา อบจ.นครสวรรค์ และเขต 5 พรวิศิษฐ์ แจ่มใส

ที่น่าสนใจคือ เขต 3 (อ.บรรพตพิสัย อ.เก้าเลี้ยว และอ.ชุมแสง) สจ.เปิ้ล สุภัสสร จะต้องแข่งกับแชมป์เก่า สัญญา นิลสุพรรณ เด็กในสังกัดหิมาลัย

อันที่จริง หิมาลัย ผิวพรรณ ในฐานะแกนนำพรรค รทสช. มีคิวพา พล.อ.ประยุทธ์ มาลงพื้นที่นครสวรรค์ เขต 3 พื้นที่ของ สัญญา นิลสุพรรณ และพิจิตร เขต 3 พื้นที่ สุรชาติ ศรีบุษกร ช่วงปลายเดือน ม.ค.2566

เนื่องจาก 2 เขตนี้ เป็นพื้นที่เป้าหมายของหิมาลัยที่จะต้องได้ ส.ส. แต่พรรคคู่แข่งคงไม่ยอมให้ผ่านไปง่ายๆ โดยเฉพาะนครสวรรค์ เขต 3 เสี่ยสันติ คงดัน สจ.เปิ้ลให้เข้าป้ายจนได้

เมื่อเห็นท่วงท่า ลีลาการเมือง ลุงป้อม พี่ใหญ่  ที่ยึดเอานโยบายประชานิยม มาต่อยอดความสำเร็จเป็นของพรรคพลังประชารัฐเบ็ดเสร็จ ตัดหน้า ลุงตู่ ผู้น้อง และผู้นำรัฐบาลอย่างไม่แคร์ และไม่แชร์ผลงาน อีกทั้งยังปฏิบัติการช่วงชิงจังหวะการเมืองแบบชอตต่อชอตแล้ว 

ศึกเลือกตั้งเที่ยวนี้ หลายพรรคคงประมาท ลุงป้อม "บูรพาพยัคฆ์เฒ่า" ผู้มีใจบันดาลแรงไม่ได้