ครม.เคาะงบฯเลือกตั้งกรอบ 5.9 พันล้านบาท เตรียมพร้อมเลือกตั้งปี 66

ครม.เคาะงบฯเลือกตั้งกรอบ 5.9 พันล้านบาท เตรียมพร้อมเลือกตั้งปี 66

ครม.เคาะกรอบเงินเลือกตั้งปี 66 วงเงิน 5.9 พันล้านบาท เตรียมรับการเลือกตั้งทั่วไปปี 66  เพิ่มจากปี 62 ที่ใช้งบฯ 4.2 พันล้านบาท สำนักงบฯเตรียมหารือกับ ก.ก.ต.ดูการใช้งบฯที่แท้จริง และรายได้ของ ก.ก.ต.คาดใช้เงินจริงอาจไม่เกิน 5 พันล้าน  

นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบกรอบวงเงินสำหรับการจัดเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) เสนอ ในวงเงินประมาณ 5.9 พันล้านบาท (5,945 ล้านบาท) 


โดยหลังจากนี้สำนักงบประมาณจะหารือกับ ก.ก.ต.อีกครั้งเกี่ยวกับงบประมาณที่ใช้จริงโดยพิจารณาเรื่องของเขตการเลือกตั้ง การใช้งบประมาณในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งเงินรายได้ที่ ก.ก.ต.มีอยู่เพื่อให้ทราบว่างบประมาณที่แท้จริงที่ต้องใช้ที่แท้จริงคือเท่าไหร่ ซึ่งอาจไม่เกินวงเงิน 5 พันล้านบาท 


เมื่อถามว่าสาเหตุที่การใช้เงินการเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นจากในปี 2562 นั้น ผ.อ.สำนักงบประมาณระบุว่าเนื่องจากรายละเอียดการเลือกตั้งทั้งสองครั้งแตกต่างกัน แต่ก็ต้องดูความต้องการใช้งบประมาณที่แท้จริงว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งสำนักงบประมาณจะสอบถามไปยัง ก.ก.ต.ต่อไป 

 

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี วันนี้ (24 มกราคม 2566) อนุมัติหลักการให้สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง จำนวน 5,945,161,000  บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมและการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ  แบ่งเป็นค่าใช้จ่าย ดังนี้ 

1. รายการค่าใช้จ่ายในการควบคุมและจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ดำเนินการโดยสำนักงาน กกต. จำนวน 5,104,546,750 บาท   อาทิ ภารกิจในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร   ภารกิจเตรียมความพร้อมบุคลากร วิทยากร และเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกระดับ   รวมทั้งภารกิจจัดการเลือกตั้งกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งสั่งให้มีการลงคะแนน/เลือกตั้งใหม่/ แทนตำแหน่งที่ว่าง


2. รายการค่าใช้จ่ายในการควบคุมและจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการโดยหน่วยงานสนับสนุน ทั้งราชการและรัฐวิสาหกิจ รวม 10 หน่วยงาน วงเงิน  840,614,250 บาท อาทิ  ภารกิจสนับสนุนการควบคุมและการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกราชอาณาจักร  โดย กระทรวงการต่างประเทศ    ภารกิจการรักษาความสงบเรียบร้อยโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ภารกิจสนับสนุนการรณรงค์เผยแพร่ความรู้การเลือกตั้ง   โดยกระทรวงศึกษาธิการ  ภารกิจขนส่งบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง หนังสือแจ้งเจ้าบ้านและอื่นๆ  โดย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด  เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ ก.ก.ต.ได้ระบุว่าในการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไป ปี 2562 กกต. ใช้งบประมาณไปประมาณ 4,200 ล้านบาท สาเหตุที่มากกว่าเดิม เนื่องจากเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นจาก 350 เขตเลือกตั้งเป็น 400 เขตเลือกตั้งและใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ รวมทั้งจำนวนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเพิ่มขึ้นจากหน่วยละ 5 คน เป็นหน่วยละ 9 คน

สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นคาดว่าจะไม่เกินวันที่ 7 พ.ค. 2566 ตาม ที่ ก.ก.ต.ได้มีจดหมายแจ้งพรรคการเมืองไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้อายุของสภาผู้แทนราษฎรจะสิ้นสุดลงในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ซึ่งต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน นับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุ

หรือ กรณีมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรต้องจัดให้มีการเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใช้บังคับ