เปิดเซฟ 3 อธิบดี นั่งครบ 3 ปี “ไพโรจน์” 12 ล. “ประทีป” 34 ล. “เชษฐพันธ์” 15 ล.

เปิดเซฟ 3 อธิบดี นั่งครบ 3 ปี “ไพโรจน์” 12 ล. “ประทีป” 34 ล. “เชษฐพันธ์” 15 ล.

เปิดเซฟ 3 อธิบดีนั่งเก้าอี้ครบ 3 ปี “ไพโรจน์ โชติกเสถียร” กรมการจัดหางาน 12 ล้านบาทเศษ “ประทีป ทรงลำยอง” กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน รวย 34 ล้านบาท “เชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์” กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ 15.2 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหลายราย รายชื่อน่าสนใจ กรณี 3 อธิบดี ดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี ได้แก่

นายไพโรจน์ โชติกสเถียร กรณีดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน ครบ 3 ปี เมื่อ 20 มิ.ย. 2565

เจ้าตัวมีทรัพย์สิน 5,766,874 บาท ได้แก่ เงินฝาก 218,374 บาท ที่ดิน 807,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4,293,500 บาท ยานพาหนะ 448,000 บาท มีหนี้สิน 554,951 บาท

มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1,681,435 บาท เป็นเงินเดือน 879,196 บาท เงินประจำตำแหน่ง 348,000 บาท ค่าตอบแทนรถประจำตำแหน่ง 381,600 บาท กรมธรรม์ครบกำหนด 72,638 บาท มีรายจ่ายรวม 1,440,658 บาท

ส่วนนางศิริพร โชติกเสถียร คู่สมรส มีทรัพย์สิน 6,279,985 บาท ได้แก่ เงินฝาก 17,580 บาท เงินลงทุน 803,000 บาท ที่ดิน 1,665,905 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3,793,500 บาท มีหนี้สิน 346,066 บาท

มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 993,994 บาท ในจำนวนนี้ได้จากการขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง มูลค่า 3.5 แสนบาท มีรายจ่ายรวม 852,487 บาท

รวมทั้งคู่มีทรัพย์สิน 12,046,860 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 901,017 บาท

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2560 นายไพโรจน์เป็นผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน ปี 2562 เป็นรองอธิบดีกรมการจัดหารงาน ปี 2563 เป็นผู้ตรวจราชการ ปี 2564 เป็นรองปลัดกระทรวงแรงงาน ปี 2565 ขึ้นเป็นอธิบดีกรมการจัดหางาน ส่วนนางศิริพร คู่สมรส ปัจจุบันเป็นนักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานจัดหางาน จ.สงขลา

เปิดเซฟ 3 อธิบดี นั่งครบ 3 ปี “ไพโรจน์” 12 ล. “ประทีป” 34 ล. “เชษฐพันธ์” 15 ล.

นายประทีป ทรงลำยอง กรณีดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ครบ 3 ปี เมื่อ 20 มิ.ย. 2565

เจ้าตัวมีทรัพย์สิน 1,048,618 บาท ได้แก่ เงินฝาก 498,616 บาท ยานพาหนะ 5.5 แสนบาท มีหนี้สิน 2,351,630 บาท แจ้งมีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1,651,200 บาท มีรายจ่ายรวม 547,072 บาท

ส่วนนางภัคชลี ทรงลำยอง คู่สมรส มีทรัพย์สิน 32,969,784 บาท ได้แก่ เงินฝาก 3,469,784 บาท ที่ดิน 24.5 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 5 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน แจ้งมีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1,378,720 บาท ในจำนวนนี้มาจากที่ดิน 1 งาน มูลค่า 4 แสนบาท มีรายจ่ายรวม 377,730 บาท

รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 34,018,403 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,351,630 บาท

ก่อนหน้านี้ ระหว่างปี 2556-2562 นายประทีป เป็นผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ปี 2562-2563 เป็นรองอธิบดี ปี 2563-2564 เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน กระทั่ง 1 ต.ค. 2564 ขึ้นเป็นอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ส่วนนางภัคชลี คู่สมรส ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง สำนักงานเขตห้วยขวาง กทม.

เปิดเซฟ 3 อธิบดี นั่งครบ 3 ปี “ไพโรจน์” 12 ล. “ประทีป” 34 ล. “เชษฐพันธ์” 15 ล.

นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ กรณีดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ ครบ 3 ปี เมื่อ 5 เม.ย. 2565

เจ้าตัวมีทรัพย์สิน 14,388,477 บาท ได้แก่ เงินฝาก 4,281,872 บาท เงินลงทุน 1,297,998 บาท ที่ดิน 1,050,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3.5 ล้านบาท ยานพาหนะ 8 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 3,458,606 บาท

แจ้งมีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1.1 ล้านบาท เป็นเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งทั้งหมด มีรายจ่ายรวม 5 แสนบาท

ส่วนนางอลิสา มากสัมพันธ์ คู่สมรส มีทรัพย์สิน 831,381 บาท ได้แก่ เงินฝาก 173,381 บาท และทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 658,000 บาท

แจ้งมีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 7.5 แสนบาท มีรายจ่ายรวม 5 แสนบาท

ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 12,254 บาท ไม่มีรายได้ มีรายจ่าย 1 แสนบาท เป็นค่าอุปโภคบริโภค

รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 15,232,113 บาท ไม่มีหนี้สิน

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2559 นายเชษฐพันธ์ เป็นหัวหน้าสำนักงาน สำนักงาน รมว.ต่างประเทศ ปี 2560 เป็น ผอ.สำนักนโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปี 2562 เป็นรองอธิบดี กรมองค์การระหว่างประเทศ ปี 2563-2565 เป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ก่อนจะถูกเลื่อนขั้นเป็นอธิบดี ส่วนนางอลิสา คู่สมรส ปัจจุบันเป็นผู้จัดการสำนักงาน/ผู้ประสานงาน D.OASIS City Co.,Ltd.

เปิดเซฟ 3 อธิบดี นั่งครบ 3 ปี “ไพโรจน์” 12 ล. “ประทีป” 34 ล. “เชษฐพันธ์” 15 ล.