"พปชร." พร้อมอ้าแขนรับ "กลุ่มสี่กุมาร" กลับรังเก่า
"พลังประชารัฐ" พร้อมรับดีล “สี่กุมาร” กลับรัง เสริมทัพช่วยงานเศรษฐกิจ มองไม่เสียหาย เพราะ “บิ๊กป้อม” ไม่เคยรังเกียจ ชี้ พปชร. เป็นพรรคประชาธิปไตยสูงสุด ลั่น ไม่ได้เป็นพรรคทหารแบบที่ใครเขาว่า
ที่พรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเปิดดีลกับพรรคสร้างอนาคตไทย กลุ่มของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และนายอุตตม สาวนายน จะกลับมาร่วมงานกับพรรค ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค วางแนวทางของพรรคเอาไว้ พร้อมเปิดรับทุกคนไม่เคยรังเกียจ ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ดูแลพี่น้องประชาชนในการพัฒนาบ้านเมือง
“ขณะนี้มีผู้มีความสามารถ มีชื่อเสียงเป็นผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ก็มีติดต่อเข้ามาร่วมพรรคจำนวนมาก เนื่องจากเห็นว่าพรรคของเรามีความตั้งใจในการแก้ปัญหา พัฒนาในด้านเศรษฐกิจ ความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน และที่สำคัญเราก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะฉะนั้นสมคิดก็ดี อุตตมะก็ดี ถ้ามีความตั้งใจทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ก็ไม่ได้มีความเสียหายอะไร” นายสันติกล่าว
นายสันติ มองว่า นายสมคิดและนายอุตตม ก็มีความตั้งใจที่จะมาช่วยทำงานให้กับประชาชนเลยขอเข้ามาร่วมกับพรรค ซึ่งถือเป็นเรื่องดี จะทำให้มีความแข็งแกร่งขึ้น ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีความขัดแย้งกัน เพราะพรรคพลังประชารัฐมีประชาธิปไตยสูงสุด อีกทั้งพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เป็นพรรคทหารอย่างที่คิดกัน บางครั้งอาจมีความคิดไม่ตรงกันบ้าง ก็อาจจะถอยไประยะหนึ่ง และเมื่อจะมีการกลับมาร่วมกันใหม่ก็ไม่ได้มีความเสียหาย
“เราไม่ได้มีความขัดแย้ง ผมอยู่พรรคนี้มาตั้งแต่แรก แต่พรรคเรามีความเป็นประชาธิปไตยสูงสุด อาจจะมีความคิดไม่ตรงกัน แต่วันหนึ่งเมื่อเห็นความจริงว่าพรรคพลังประชารัฐ ทำงานให้กับประชาชนอย่างแท้จริง จะกลับมาบ้านเก่า มาร่วมกันพัฒนาบ้านเมือง ถ้าอยากมาก็มาช่วยกัน ไม่ได้เสียหายอะไร ส่วนจะมาอยู่ในตำแหน่งอะไรก็เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคไม่ใช่ว่าจะมาคนในคนหนึ่งจะมาชี้นำได้” นายสันติ กล่าว
นายสันติ กล่าวต่อว่า ภายในพรรคพลังประชารัฐมีคนเชี่ยวชาญ ด้านเศรษฐกิจหลายคน เช่นนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แต่ถ้ายิ่งเสริมเข้ามาก็จะมีความแข็งแกร่ง และผลประโยชน์จะไปตกที่พี่น้องประชาชน แนวคิดพรรคพลังประชารัฐมีความเป็นประชาธิปไตยมาก ไม่ได้มีความเป็นทหารเหมือนที่ใครว่า