“ชัชชาติ” รับไม่ได้ สั่งดำเนินการเด็ดขาด ผอ.ร.ร.เรียกเงินค่าอาหารนักเรียน
“ชัชชาติ” ลั่นรับไม่ได้! ผอ.ร.ร.บางชัน เรียกรับเงินโครงการอาหารเด็กนักเรียน สั่งดำเนินการเด็ดขาด มอบปลัด กทม.ตั้ง กก.สอบวินัยร้ายแรง ส่ง “พล.อ.นิพัทธ์” ปูพรมตรวจทั่วเมืองหลวง
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2566 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) กล่าวถึงกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) เขตคลองสามวา ถูกแจ้งข้อหาเรียกรับเงินจากเอกชนผู้ประกอบโครงการอาหารนักเรียนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เรามีนโยบายที่ชัดเจนและเด็ดขาดในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน การดำเนินการวินัยเป็นอำนาจของปลัดกรุงเทพมหานคร (ปลัด กทม.) โดยได้สั่งให้ดำเนินการขั้นสูงสุดตามกรอบที่กฎหมายอนุญาต เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง แต่ก็ให้สิทธิในการชี้แจงเช่นเดียวกัน
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจะให้พักราชการไว้ก่อนและจะมีการไต่สวนอย่างเป็นธรรม เชื่อว่าปัจจุบันไม่มีความลับในโลก ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือ มีการอัดเทป นี่ถือเป็นตัวอย่าง โดยถึงแม้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจะถูกกฎหมาย แต่กระบวนการตรวจรับก็อาจมีช่องว่าง กทม.จะดูที่คุณภาพอาหารเด็กเป็นสำคัญ โดยมอบ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องนี้ต้องเริ่มจากการแต่งตั้งโยกย้ายที่เป็นธรรม ให้ใช้คนที่มีคุณภาพ และห้ามทำการซื้อขายตำแหน่งโดยเด็ดขาด ที่ผ่านมาก็พยายามปรับตรงนี้อยู่ ให้มีความโปร่งใส ยุติธรรม พร้อมหาแนวร่วมในการแจ้งปัญหาหรือเบาะแสผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ Traffy Fondue โดยจะปกป้องข้อมูลของผู้แจ้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญและทำให้ประชาชนไว้ใจ ส่วนของเรื่องส่วยหาบเร่แผงลอย ที่ผ่านมาก็มีการโยกย้ายหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 42 เขต แต่ไม่ใช่เรื่องของการทุจริต เพียงแต่ต้องการให้ได้ทำงานในบรรยากาศใหม่ที่ไม่คุ้นเคย เพื่อให้เห็นปัญหาในอีกมุมมองหนึ่ง
“เรื่องของอาหารกลางวัน เราต้องยอมรับความจริง แต่เราต้องรีบแก้เมื่อเห็นปัญหา หัวใจสำคัญคือการยอมรับว่ามีปัญหา จึงจะทำให้แก้ปัญหานั้นได้ ในเรื่องนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนสุเหร่าสามอิน คุณครูที่โรงเรียนก็แสดงความเสียใจ ซึ่งกรณีทุจริตนั้น แม้ว่าเกิดจากคนไม่ดีไม่กี่คนก็สามารถทำให้คนส่วนใหญ่เสียไปด้วย ก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณครูของ กทม.ทุกท่าน และยังเชื่อมั่นในตัวคุณครูทุกท่าน หากในโรงเรียนมีคนที่ทำผิด มีพฤติกรรมทุจริต หน้าที่เราคืออย่าไปยอม ต้องแจ้งเบาะแส เพื่อเอาคนพวกนี้ออกจากระบบ และเพื่อให้คนที่เหลือมีกำลังใจในการทำงาน นอกจากนี้ วิธีแก้อีกอย่างคือการดูแลคุณภาพอาหาร หากเป็นการประมูลที่มีการแข่งขันถูกต้อง มีการควบคุมคุณภาพอาหารให้เหมาะกับราคากลาง ก็จะไม่มีช่องว่างให้ถูกเอาไปใช้อย่างอื่นได้” นายชัชชาติ กล่าว
ส่วนนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานเขตคลองสามวาทำเรื่องมาแล้ว จากนั้นปลัด กทม.ในฐานะผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง จะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง เนื่องจากเป็นความผิดที่ชัดแจ้ง และขณะเดียวกันจะมีคำสั่งให้พักราชการไว้ก่อน ทั้งนี้ ในการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงจะมีการกำหนดว่าต้องแล้วเสร็จภายในกี่วัน เช่น 15 วัน หรือ 30 วัน ปลัด กทม.จะเป็นผู้พิจารณา