"กัญชา vs ประมง"ขย่มรัฐร้าว "ภท.-ปชป." ศึกสางแค้น
"ศึกแค้น-เกมเอาคืน" บวกรอยร้าวภายในขั้วรัฐบาล กำลังกัดกร่อนเสถียรภาพฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ต่างอะไรกับเกมบีบไปยัง"เบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้า" ในการชิงจังหวะยุบสภา
“3วันหนี 4วันล่ม” ฉายาที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภา พร้อมใจตั้งให้กับ “สภาผู้แทนราษฎร” อันเป็นแหล่งรวมตัวของสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ไปเมื่อปลายปี2565 น่าจะเป็นคำอธิบาย “กลเกมสภา” ในช่วงปลายสมัยประชุมก่อนสิ้นสุดวาระในวันที่28ก.พ. ที่ยามนี้เกิดสภาวะล่มรายวันได้ดีที่สุด
ภาพของการชิงไหวชิงพริบกลางสภาเป็นรายสัปดาห์ นับเป็นการตอกย้ำสัญญาณการเมืองที่ยามนี้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแบบเต็มรูปแบบว่า ไม่มีใครยอมใครอีกต่อไป
ไล่เรียงเหตุการณ์ “สภาล่ม”ติดกัน2นัดในรอบ1สัปดาห์ที่ผ่านมา ครั้งแรกระหว่างการลงมติมาตรา15 ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. ....ในวันที่1ก.พ.
“ภูมิใจไทย” ในฐานะผู้เสนอร่างเองดูเหมือนจะรู้สัญญาณเตะถ่วงหวังให้กฎหมายฉบับนี้แท้งกลางสภาเป็นอย่างดี ชิงเกมส่งข้อความถึง “นิโรธ สุนทรเลขา” ประธานวิปรัฐบาล ช่วงเช้าก่อนการประชุมยืนคำขาดอย่างชัดเจน
"หากมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง แล้วเกิดปัญหาสภาล่มอีกพรรคภูมิใจไทย จะไม่ช่วยรักษาองค์ประชุมให้อีกในโอกาสต่อๆ ไป" ศุภชัยประกาศอย่างชัดเจน
ทว่าคำขู่ดังกล่าวดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะนอกเหนือจากที่ร่างพ.ร.บ.กัญชายังถูกแทรกวาระด้วย ญัตติด่วนเรื่องสิทธิประกันตัวในดคีการเมือง ด้วยเหตุผลในเรื่องความอ่อนไหวของสถานการณ์แล้ว
เมื่อถึงเวลาจริงกฎหมายกัญชาวาระสองกลับเดินหน้าไปเพียง5มาตราเท่านั้น
เจาะลึกเสียงโหวตการลงมติในมาตรา15 ซึ่งเกิดปัญหาสภาล่มพบว่า พรรคเพื่อไทย แสดงตนเพียง11 คน จำนวนนี้มีเพียงผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีษะเกษ ที่เตรียมย้ายไปพรรคภูมิใจไทยเพียงคนเดียวที่ลงมติเห็นด้วย ส่วนที่เหลือลงมติไม่เห็นด้วย
พรรรคพลังประชารัฐ แสดงตน43 คนส่วนใหญ่เห็นด้วย เว้น4คนงดออกเสียง1คนไม่ลงคะแนน
พรรคประชาธิปัตย์ แสดงตน 27 คน โดยมีเพียงพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มนตรี ปานน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี ที่ลงมติเห็นด้วย
ขณะที่ที่เหลืองดออกเสียงจำนวนนี้มี “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ส.ส.ตรัง คู่กรณีพรรคภูมิใจไทย รวมอยู่ด้วย ขณะที่อีกส่วนไม่ลงคะแนน
พรรคก้าวไกล แสดงตน35 คน ลงมติเห็นด้วยทั้งหมด ยกเว้น ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่งดออกเสียง
พรรคชาติไทยพัฒนา แสดงตน 6คน ลงมติเห็นด้วยยกเว้น จุลพันธ์ โนนศรีชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่งดออกเสียง
พรรคเศรษฐกิจไทย แสดงตน3คน 2คนเห็นด้วย ขณะที่ พรชัย อินทร์สุข งดออกเสียง
พรรคเสรีรวมไทย แสดงตน3คน เห็นด้วย2คนงดออกเสียง1คน
พรรคเศรษฐกิจใหม่ แสดงตน4คนเห็นด้วยทั้งหมด
พลังท้องถิ่นไทย แสดงตน5คน เห็นด้วยทั้งหมด
ชาติพัฒนากล้า แสดงตน2คน งดออกเสียงทั้ง2คน นอกนี้ยังมีพรรคเล็ก1เสียง แสดงตนประกอบด้วย พรรคพลังชาติไทย,พรรคครูไทยเพื่อประชาชนพรรคพลเมืองไทยและพรรคพลังธรรมใหม่ 4 เสียงจำนวนนี้ เห็นด้วย3เสียงและงดออกเสียง1เสียง
“ศึกวัดพลัง” ที่เกิดขึ้นลามข้ามวันมาที่การสางแค้นเอาคืนของพรรคภูมิใจไทย เมื่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. …. เกิดปัญหาประชุมล่ม
โดยมีชนวนเหตุมาจากการ“เจตนาไม่แสดงตน” เป็นองค์ประชุมส.ส.ภูมิใจไทยทั้งหมด
“ศุภชัย ใจสมุทร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา ยอมรับถึงกลเกมที่เกิดขึ้นว่าเป็นการเอาคืน “แผนรุมกินโต๊ะ” ของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน
โดยเฉพาะร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. …. ที่เสนอโดยหลากหลายพรรคการเมือง หนึ่งในนั้นมีร่างของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอโดย นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา ที่เตรียมลงมติวาระแรกซึ่งจะต้องสะดุดหยุดลงตามไปด้วย
“ส.ส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส.ส.พรรครัฐบาลไม่อยู่เป็นองค์ประชุมหรืออยู่แล้วไม่แสดงตน เป็นผลให้การพิจารณา พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. .... ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ พรรคฯ จึงมีความจำเป็นต้องแสดงจุดยืน...
หากวิปรัฐบาลไม่สามารถทำให้การดำเนินงานด้านนิติบัญญัติเป็นไปด้วยดีก็ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภาเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เลือก ส.ส. เข้ามาใหม่เพื่อทำหน้าที่ต่อไป”ศุภชัย ยอมรับเกมเอาคืนที่เกิดขึ้น
อีกนัยหนึ่งยังเป็นการส่งสัญญาณไปถึง “เบอร์หนึ่ง” ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสื่อว่า สภาฯยามนี้ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้แล้ว
ฉะนั้นด้วยหลากหลายกลเกมที่เกิดขึ้นในสภายามนี้จึงไม่ต่างอะไรกับเกมบีบไปยังตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการชิงจังหวะยุบสภาเปิดทางทางโหมดเลือกตั้งแบบเต็มรูปแบบในเร็ววัน
