"อนุทิน" ขอโทษ ประยุทธ์ หลัง เด็กภท. แขวะ เลือกสงบจบที่ลุงตู่ ขายไม่ได้แล้ว
“อนุทิน” กราบขอโทษนายกฯ ปม ศุภชัย พาดพิง ชี้ความสงบขายไม่ได้แล้ว รับปากไม่ให้เกิดขึ้นอีก ยันภท.ไม่หนีอภิปราย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้ปราศรัยที่เขตปทุมวันเมื่อวานนี้ (6 ก.พ.66) โดยมีช่วงหนึ่งกล่าวในทำนองว่า ความสงบไม่สามารถขายได้แล้ว “ความสงบจบที่ลุงตู่” โดยมองว่ามากเกินไป ว่า ตนจะไปเตือน พร้อมบอกว่าการหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยจะต้องไม่พูดถึงพรรคอื่น ซึ่งตนได้มีการแจ้งไปแล้วว่าให้พูดแต่เรื่องที่พรรคภูมิใจไทยต้องการ สื่อสารกับประชาชนและพรรคภูมิใจไทยต้องการจะทำอะไรให้กับประชาชน ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นหรือพรรคอื่น ก่อนจะกล่าวขอโทษในการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนงตนเองไปยังลูกพรรค พร้อมรับปากว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า จะเป็นปัญหากับทางฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน รีบตอบว่า “ไม่หรอกครับ” เพราะพรรคภูมิใจไทยก็โดยพรรคอื่นใส่มาเต็มเหมือนกัน แต่หากไม่ได้คิดอะไรมาก ตนก็มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติทางการเมือง พร้อมย้ำว่าความขัดแย้งในบ้านเมืองหรือการพูดถึงคนอื่นในทางไม่ดี ไม่ใช่สไตล์การทำงานของตนเอง
เมื่อถามว่า จะต้องมีการไปเคลียร์ใจกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขอโทษผ่านสื่อไปก่อน “กราบขอโทษท่านนายกฯด้วย” แต่หากเจอพล.อ.ประยุทธ์ ในที่ประชุมวันนี้ ก็จะเข้าไปขอโทษอีกครั้ง พร้อมบอกว่าเวลาขึ้นเวทีปราศรัยจะมีบทเพลงพาไป แต่ก็ย้ำว่าไม่ใช่เจตนารมรณ์ของพรรคภูมิใจไทยเพราะตนก็บอกลูกพรรคแล้วว่าห้ามพูดถึงคนอื่น ตนจึงต้องมาขอโทษ
ส่วนกรณีการอภิปรายตามมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ ทางพรรคฝ่ายค้านมองว่า พรรคภูมิใจไทยมีทีท่าจะไม่ร่วมองค์ประชุม เนื่องจากกลัวถูกถล่มในที่ประชุมสภา นายอนุทิน ถามผู้สื่อข่าวกลับว่า หากหลบไปแล้ว แล้วจะไม่อภิปรายได้หรือไม่ หากยิ่งหลบแล้วไปอภิปรายนอกสภา ก็จะไม่มีโอกาสได้ชี้แจงหรือแก้ข้อกล่าวหาใดๆเลย พร้อมยืนยันว่าไม่มีใครทำเช่นนั้นเพราะเจตนารมณ์ของการอภิปรายมาตรา 152 คือการให้คำแนะนำของฝ่ายค้านต่อรัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหมดสมัยสภาชุดนี้ ก็จะเตรียมตัวไปตอบอย่างเต็มที่ เขาอยากพูดอะไรก็พูด เราอยากพูดอะไรเราก็พูดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน พร้อมย้ำว่าอย่าไปกังวล ไม่มีใครหนีการอภิปรายเพราะเรื่องแค่นี้
เมื่อถามว่า การอภิปรายของฝ่ายรัฐบาล ที่มีเวลาเพียง 8 ชม.จะเพียงพอหรือไม่ นายอนุทิน มองว่า หากสิ่งที่ชี้แจงมีเนื้อหาสาระก็จะเพียงพอ แต่หากทะเลาะกันไปมาก็จะไม่พอ อย่าหลงเข้าไปในเกม เราพูดแต่ข้อเท็จจริง เพราะทางฝ่ายค้านจะไม่มีวันรู้มากกว่าเรา เพราะเราเป็นคนทำงานก่อนย้ำว่าการจะพูดถึงกระทรวงที่เราทำงานมานั้น ย่อมพูดได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้ทำงานอยู่แล้วส่วนฝ่ายค้าน นายอนุทิน มองว่าเป็นบทบาทและหน้าที่ เมื่อมีเอกสิทธิ์คุ้มครองอยู่ในสภา ก็ใส่มาเต็มที่ พร้อมแสดงความมั่นใจว่า กระทรวงในส่วนของพรรคภูมิใจไทยสามารถตอบได้อยู่แล้ว และหากเป็นคำแนะนำจะยิ่งดีมาก ถ้าเป็นคำแนะนำและเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ถึงมาจากฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไข เป็นการเมืองในเชิงสร้างสรรค์