รัฐสภา เสียเวลา2ชม. ปมนัดประชุมเป็นพิเศษ "ส.ว."ชี้ "ชวน"ทำขัดข้อบังคับ

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ... ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ โดยนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กำหนดนัดประชุม เวลา09.00 น.  ทั้งนี้การเปิดประชุมเพื่อพิจารณาวาระดังกล่าวต้องใช้เวลารอองค์ประชุมนานถึง 2 ชั่วโมง ถึงจะสามารถเปิดประชุมรัฐสภาได้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเข้าสู่การประชุมรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ยังไม่สามารถเข้าสู่การพิจารณาตามวาระได้ หลังจากที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย สอบถามถึงกรณีการบรรจุระเบียบวาระ ที่พบว่าได้นำร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมฯ พิจารณาแทน ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ค้างการพิจารณาในวาระสอง ทั้งนี้ ในการประชุมวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ตนเสนอให้กมธ.ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปจากการพิจารณา เพราะมีปัญหาและประชาชนวิชาชีพครูคัดค้าน

“หากคิดว่ามีเสียงข้างมาก คุมเสียงข้างมาก หากสมัยหน้ากลับมามีเสียงข้างมาก อย่าบอกว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา เพราะการเลื่อนระเบียบวาระโดยไม่ถามความเห็นหรือขอมติจากรัฐสภา ไม่เห็นด้วย และอาจจะทำให้มีปัญหากับระบบรัฐสภา” นายจิรายุ กล่าว

 

 

ทั้งนี้มีคำอธิบายชี้แจงจากนายพรเพชร และ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะรองประธานวิปรัฐบาล โดยยืนยันว่าการเปลี่ยนระเบียบวาระสามารถทำได้ เพราะเป็นการนัดประชุม นัดพิเศษ อย่างไรก็ดีการอภิปรายของนาจิรายุ ได้รับการสนับสนุนจาก นายตวง อันทะไชย ส.ว. ฐานะประธานกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... แต่เป็นคนละประเด็น

โดยนายตวง อภิปรายไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงระเบียบวาระ โดยนำร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมสื่อฯ​ แทรก ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่กมธ.พิจารณาแล้วเสร็จ พร้อมกับ เสนอญัตติด่วนให้รัฐสภามีมตินำร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ มาพิจารณาต่อ เพราะมองว่าร่างกฎหมายดังกล่าวมีความจำเป็น เป็นร่างกฎหมายปฏิรูปฉบับสุดท้าย ตามรัฐธรรมนูญ หมวด16 ซึ่งไม่มีประเด็นใดที่ยกเลิกกระทรวง หรือ กระทบกับวิชาชีพครู ตามที่มีการทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่มีผลกระทบกับผู้อำนวยการเขตที่แต่งชุดดำประท้วง อย่างไรก็ดีการเลื่อนระเบียบวาระโดยใช้คำว่านัดเป็นพิเศษ ตนเชื่อว่าจะเป็นประเด็นที่สร้างปัญหากับรัฐสภาในอนาคต 

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว. อภิปรายว่า สำหรับการนัดประชุมเป็นพิเศษ เพื่อแก้ไขระเบียบวาระนั้น ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่ได้ให้อำนาจไว้  แต่การประชุมสภา ตามข้อบังคับของสภาฯ สามารถทำได้เพราะให้อำนาจประธานสภาฯ ดำเนินการได้

 

"การประชุมร่วมรัฐสภา ไม่เคยมีธรรมเนียมกำหนดเป็นวาระพิเศษ ซึ่งการเลื่อนวาระดังกล่าวถือว่าขัดต่อข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา อีกทั้งการประชุมรัฐสภาไม่เคยมีปฏิบัติที่บรรจุวาระโดยไม่มีการระบุเรื่องที่ค้างอยู่ ดังนั้นผมมองว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ถูกต้อง และควรพิจารณาร่างกฎหมายที่ค้างอยู่ให้เสร็จ คือ ร่างพ.ร.บ.การศึกษา จากนั้นจึงต้องต่อด้วย พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรม” นายสมชาย กล่าว

 

อย่างไรก็ดีนายชินวรณ์ แย้งว่าไม่มีประเด็นใดที่ขัดต่อข้อบังคับหรือรัฐธรรมนูญ พร้อมขอให้เดินหน้าตามวาระที่กำหนดไว้ ส่วนร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ขอให้หารือเพื่อกำหนดวาระประชุมครั้งต่อไป

 

ขณะที่นายพรเพชร ชี้แจงว่า ร่างพ.ร.บ.การศึกษา ไม่มีวาระต้องตกไป แต่ขณะนี้มีปัญหาทางข้อกฎหมายบางประการต้องชี้แจงต่อไป อย่างไรก็ดีที่ประชุมยังใช้เวลาถกเถียงกันนานกว่า1 ชั่วโมง โดยนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้ขึ้นทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พร้อมชี้แจงว่า การเลื่อนวาระเรื่อง ร่างพ.ร.บ.การศึกษา ตามญัตติของนายตวง นั้นไม่สามารถทำได้ เพราะเรื่องไม่อยู่ในระเบียบวาระ ส่วนการกำหนดประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมสื่อฯ ตนได้หารือกับนายพรเพชรแล้ว   อย่างไรก็ดีประเด็นปัญหาของการประชุมที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือไปยังรัฐบาล หากต้องการให้กฎหมายรัฐบาลผ่านต้องจัดองค์ประชุมให้ครบ อย่างไรก็ดีสมัยประชุมจะสิ้นสุดลง 28 กุมภาพันธ์ แต่อายุของสภาฯ มีถึง 23 มีนาคม หากให้กฎหมายใดที่รัฐบาลจำเป็นเปิดสมัยวิสามัญได้ โดยจำนวนส.ส.รัฐบาลยังเป็นเสียงข้างมากอยู่มาก  ดังนั้นหากรัฐบาลมีความพร้อมสามารถจัดองค์ประชุมเพื่อพิจารณาได้

 

"หากเป็นว่าผมทำไม่ถูกต้องหากมีมาตรการใดสามารถทำได้ ทั้งนี้ผมมองประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เพราะงานของสภาฯ อาจจะทำได้ไม่ครบทั้ง100  ความหวังดีไม่อยากให้งานของรัฐสภาค้างแม้แต่เรื่องเดียว จึงบริหารเรื่องเวลา ทั้งนี้ในปัญหาของสภาฯ เรื่ององค์ประชุม ควรสู้กันเรื่องลงมติไม่เห็นด้วย ไม่ใช่สู้กันด้วยองค์ประชุม จนทำให้การประชุมตามวาระนั้นไม่แล้วเสร็จ” นายชวน กล่าว 

 

อย่างไรก็ดีเรื่องดังกล่าวหลังการหารือ เกือบ 2ชั่วโมง มีข้อสรุปที่เป็นข้อยุติ คือนายตวงถอนญัตติ ขณะที่ฝ่ายค้านพร้อมจะร่วมประชุม ทั้งนี้นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฐานะวิปฝ่ายค้าน ขอให้นัดหารือวิป3ฝ่ายเพื่อตกลงเวลาต่อการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 8 กุมภาพันธุ์เพื่อให้พิจารณาแล้วเสร็จภายในวันเดียว จากนั้นเวลา 12.44 น. ได้เข้าสู่การพิจารณาเรื่องตามระเบียบวาระ.