กกต.กทม.ฟังทุกเสียงสะท้อนปมแบ่งเขตเลือกตั้ง 66 ยึดตามเกณฑ์-กฎหมาย

กกต.กทม.ฟังทุกเสียงสะท้อนปมแบ่งเขตเลือกตั้ง 66 ยึดตามเกณฑ์-กฎหมาย

กกต.กทม.ลั่นพร้อมฟังทุกเสียงสะท้อนของประชาชน-พรรคการเมือง หลังเปิด 8 รูปแบบ แบ่งเขตเลือกตั้ง 66 ส.ส.กทม. ย้ำยึดตามหลักเกณฑ์ ไม่มีผิดเพี้ยนนอกเหนือกฎหมาย ปัดใช้ความรู้สึกตัดสิน

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2566 นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดเลือกตั้ง 2566 กรณีที่มีผู้ยื่นคัดค้านและแสดงความไม่เห็นด้วยกับรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ทั้ง 8 รูปแบบ ว่า ช่วงระหว่างนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากพรรคการเมืองและประชาชนในพื้นที่ กทม. โดยสามารถแสดงความคิดเห็นเข้ามาได้เลยว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร ทุกความเห็นล้วนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้ง เมื่อครบกำหนด กกต.กทม.จะรวบรวมทุกความเห็นที่เสนอเข้ามาทุกช่องทางที่เข้าหลักเกณฑ์ โดยไม่ทิ้งแม้แต่ความคิดเห็นเดียว มาประมวลและสรุปเป็นรายงานเพื่อเสนอให้ กกต.พิจารณาเลือกรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่เหมาะสมที่สุด 

นายสำราญ กล่าวอีกว่า สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ กกต.กทม.โดยเฉพาะเรื่องการแบ่งเขต ยืนยันว่าไม่มีความหนักใจ เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องใช้ความระมัดระวัง ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด การแบ่งเขตเลือกตั้งต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่สามารถใช้ความเห็นหรือความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสินได้ การแบ่งเขตต้องยึดหลักรวมอำเภอใกล้ชิดติดกัน จำนวนราษฎรใกล้เคียงกัน การเดินทาง การคมนาคมต้องสะดวก หลีกเลี่ยงการผ่าตำบล สังคมชุมชนต้องไม่แบ่งแยก 

นายสำราญ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ 3 รูปแบบใหม่ไม่เหมือนกับ 5 รูปแบบที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้นั้น ยืนยันว่าแม้ก้าวแรกจะเริ่มต่างกันแต่ว่าปลายทางเหมือนกัน คือ เป้าหมายต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ โดยครั้งแรกเริ่มจากการรวมอำเภอ จากเขตพระนคร-ดุสิต -ป้อมปราบฯ - สัมพันธวงศ์ แต่ 3 รูปแบบเริ่มต้นด้วยค่าเฉลี่ยจำนวนประชากร กทม. ซึ่งไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้เลย ยกตัวอย่างจะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ คนหนึ่งเริ่มต้นเดินทางจากเขตหนองจอก ส่วนอีกคนเริ่มต้นจากเขตบางแค แต่ปลายทางคือเป้าหมายที่ จ.เชียงใหม่ ดังนั้น จึงไม่มีความหนักใจแต่อย่างใด ไม่ได้ทำผิดหลักเกณฑ์ของกฎหมายแต่อย่างใด