"ชทพ." ฟาด "ผู้ใหญ่มากบารมี" เตือนระวัง "ขาดมิตรการเมือง"
เวทีชาติไทยพัฒนา ที่อ.บางปลาม้า "ส.ส." แฉ พรรคน้องใหม่ ดอดคุยทั้งพี่ และน้อง "กัญจนา" ยกคำพูดบรรหารสอน พร้อมเตือนระวัง เหลียวหลังไม่เจอมิตร
เวทีหาเสียงของ “พรรคชาติไทยพัฒนา” ที่สหกรณ์การเกษตร อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ช่วงสาย วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ซึ่งได้ยกทัพใหญ่ขึ้นเวที เพื่อประกาศ “สู้ยิบตา” ไม่หวั่น บารมีของ ผู้ใหญ่ในพรรคที่ตั้งใหม่ ซึ่ง แอบตีท้ายครัว “ประเสริฐสุวรรณ” ต่อสาย “ชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ” อดีตส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา ย้ายไปอยู่ “เพื่อไทย” และลงสมัครในนามพรรคไทยรักษาชาติ ให้ลงเลือกตั้ง ชิงเก้าอี้ ส.ส.สุพรรณบุรี เขต1 เมืองสุพรรณบุรี ที่ปัจจุบันมี “สรชัด สุจิตต์” เป็น ส.ส.สุพรรณบุรี เขต1 ของพรรค
บนเวที แกนนำทั้ง “กัญจนา - วราวุธ ศิลปอาชา” ประกาศไม่กลัว พร้อมสู้ยิบตา
ขณะที่ไฮไลต์ของงาน “กัญจนา” ฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการพรรค ใช้มาดดุดัน ฟาดไปถึง “ผู้ใหญ่มากบารมี” ของพรรคการเมืองตั้งใหม่ พร้อมประกาศว่า “ไม่กลัว” หากจะเล่นกันแบบนี้ ก็พร้อมสู้ แม้พรรคชาติไทยพัฒนา จะเป็นดั่งมด เมื่อเทียบกับ “บารมี” แต่มดตัวนี้ที่มีสายเลือดสุพรรณบุรี “กัดเจ็บ"
“ในการเลือกตั้งปี2566 ที่จะมาถึง ทราบว่ามีพรรคการเมืองตั้งใหม่พยายามจะแสวงหาผู้สมัคร มาแข่งกับพรรคหลายเขต กัญจนาของบอกว่าเสียมารยาทมาก และเสียมารยาทมากที่สุด คือ ทาบทามน้องชายแท้ๆ ของ ส.ส.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ไปลงแข่งเขต 1 สู้กับ ส.ส.สุรชัด ในทางการเมืองเรียกว่าเสียมารยาทมาก แต่หากท่านมา เราก็สสู้ พร้อมขอสู้แบบยิบตา แม้เราจะเป็นเพียงมดตัวเล็กๆ เมื่อเทียบกับบารมี แต่มดตัวนี้ กัดเจ็บนะคะ” กัญจนา ปราศรัย ซึ่งได้รับเสียงปรบมือสนับสนุนจากประชาชนที่มาฟังปราศรัยอย่างเกรียวกราว
ขณะที่ “แม่บ้านพรรค” ประภัตร โพธสุธน ที่ขึ้นเวทีไปก่อนหน้านั้น กล่าวปลุกใจคนสุพรรณ ให้รวมใจเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน เพื่อเลือก คนของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ทำงานต่อเนื่องในพื้นที่ตั้งแต่รุ่นนายบรรหาร ศิลปอาชา ทั้งผู้สมัคร แบบเขตเลือกตั้งและ บัญชีรายชื่อ เพื่อหวังดัน “วราวุธ ศิลปอาชา” แคนดิเดตนายกฯของพรรค ซึ่งเลือกตั้งรอบหน้า จะลง สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ให้ได้เป็นส.ส.เข้าสภาฯ โดยต้องได้เสียงสนับสนุน ที่กาบนบัตรบัญชีรายชื่อ เกิน 3.5แสนคะแนนขึ้นไป
"พรรคชาติไทยพัฒนาต้องแลนด์สไลด์ในสุพรรณบุรี หลายพรรคก็พูดถึงคำนี้ เราต้องการให้พูดแลนด์สไลด์ กันทุกคนเพราะเป็นภาษาทางการเมืองถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็แปลว่า ชัยชนะแบบถล่มทลาย พรรคชาติไทยพัฒนาสุพรรณบุรีจะต้องไม่มีคนอื่น ส่งให้วราวุธเดินไปข้างหน้าได้ วันนี้มีคนอื่นจะเข้ามา ผมไม่อยากเชื่อ เป็นพรรคที่อยู่ด้วยกันมาในรัฐบาล ที่สุพรรณบุรีพรรคชาติไทยพัฒนาต้องแลนด์สไลด์ เพื่อส่งวราวุธให้เป็นนายกรัฐมนตรีของสุพรรณบุรีคนที่2 เราจะต้องแลนด์สไลด์” ประภัตร กล่าวบนเวที
อย่างไรก็ดี แม้แม่ทัพของชาติไทยพัฒนา จะประกาศต่อสาธารณชน ว่า “ไม่กลัว” แต่ลึกๆ แล้วเชื่อว่ามีความหวั่นไหว เพราะคำว่า “บารมี” ของพรรคน้องใหม่ที่พยายาม วางกลยุทธ์ให้กลับมาเป็น “รัฐบาล” อีกสมัย
ดังนั้นเมื่อ “ชาติไทยพัฒนา” ประกาศลูกชนแล้ว ขณะเดียวกัน “กัญจนา” ฝากลูกอ้อน สื่อสารไปถึง "ผู้มากบารมี” ซึ่งถอดความได้ว่า "ให้เลิกการกระทำนั้นเสีย หากยังอยากได้กองหนุนหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า"
“ขอรำพึงไปถึงผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่กัญจนาเคารพรัก และนับถือ ผู้ใหญ่ท่านที่ให้ความเมตตากับพรรค ที่ให้ที่ทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ซึ่งการทำงานแต่ละครั้ง รัฐมนตรีของพรรคให้เครดิตท่านเสมอ เพราะระลึกในคุณของท่านที่ให้โอกาสได้ทำงาน”
นอกจากนั้น “กัญจนา” ยังฝากควาในใจต่อว่า
“ในเเรื่องการเมือง ท่านอย่าฟังคนรอบข้างให้มากนัก เพราะวันหนึ่งหากท่านเหลียวกับมาดูรอบตัวอาจไม่เหลือมิตรสักคน คุ้มไหมกับการส่งคนมาสมัครแข่งขันกับเราในพื้นที่เมืองหลวงของเรา เราจะไม่มีทางแพ้ แต่สิ่งที่ท่านต้องสูญเสียคือน้ำใสใจจริงที่มีให้ท่านมาตลอด”
พร้อมกับยกคำสอนของนายบรรหาร ด้วยว่า “นายบรรหาร ถูกยกให้เห็นมังกรการเมือง เนื่องจากนายบรรหารจะไม่ทำตัวเป็นศัตรูกับพรรคการเมืองใด ทำให้นายบรรหารมีมิตรในการเมือง และถือเป็นมารยาททางการเมืองที่จะไม่ส่งผู้สมัคร พื้นที่ที่เป็นหัวใจของพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ทำงานร่วมกันมา
ในช่วงท้ายของเวทีปราศรัย “ณัฐวุฒิ” ฐานะพี่ชายของ “ชาญชัย” คนที่มีชื่อว่าถูกทาบทามจากพรรครวมไทยสร้างชาติให้ลงสมัครชิงเก้าอี้ ส.ส.สุพรรณบุรี เขต1 ขึ้นเวทีปราศรัย และพูดความในใจตอนหนึ่งใว่า
“ก่อนหน้านี้มีคนมาขอให้ผมย้ายพรรค ผมตอบว่าไม่ย้าย เพราะสุพรรณบุรีต้องชาติไทยพัฒนาเท่านั้น เพื่อสานต่อสิ่่งที่นายบรรหารได้ทำไว้ ซึ่งในการอภิปรายที่สภาฯ ทุกครั้ง ผมไม่เคยเอ่ยชื่อเขา เอ่ยแค่ตำแหน่ง เพราะผมไม่ศรัทธาในตัวผู้นำ และที่สำคัญคนๆนั้นสนับสนุนพรรคการเมืองนั้น”
ถือเป็นคำที่ยืนยันชัดเจนว่า “คนพรรคชาติไทยพัฒนา” พร้อมรับคำท้ารบ และสู้ทุกรูปแบบ เมื่อปี่กลองเลือกตั้งดังขึ้นหลังยุบสภาฯ คงไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีก.