"พท." จ่อหาช่องยื่น "ป.ป.ช." ค้าน "ส.ว." เห็นชอบ เลขาฯปปง.
"ส.ส.เพื่อไทย" ชี้ "นายกฯ" ปราบโกงไม่ได้ เหตุคนใกล้ตัวทำทุจริต จ่อยื่น ป.ป.ช. หลัง ส.ว. เห็นชอบคนมีข้อร้องเรียน นั่ง เลขาฯ ปปง. พร้อมแนะ "ประยุทธ์" ทำนโยบายไก่สามอย่าง "คิดอย่างพูดอย่างทำอย่าง"
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ เป็นวันที่สอง
โดยนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ไม่สามารถปราบการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ตามที่ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากมีหลายกรณีที่เกิดขึ้นพบความเชื่อมโยงกับคนใกล้ชิดของพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งในกรณีของนายชัยณัฐธ์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ ห่าว ที่พบว่าเป็นบุคคลที่มีคดีอาญาติดตัว และเคยบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ 3 ล้านบาท เมื่อปี 2564 นอกจากนั้นแล้วยังพบกระบวนการทุนจีนที่อาจเข้าข่ายการฟอกเงิน ซึ่งพบความเชื่อมโยงกับ หลานของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยมีเงินทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท แต่พบว่ามีการเช่ารถทัวร์ 50 คัน มูลค่า 175 ล้านบาท ซึ่งตนขอตั้งคำถามว่า หลานชายของพล.อ.ประยุทธ์ ฟอกเงินหรือไม่ เพราะผลการตรวจสสอบของหน่วยงาน ปปง. ยังตรวจหารถทัวร์ดังกล่าวไม่เจอ
นายวิสาร กล่าวด้วยว่าต่อกรณีของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ที่ถูกจับเพราะมีเงินสด 5 ล้านบาท เมื่อ 27 ธันวาคม 2565 ต่อมาพบว่า พล.อ.ประยุทธ์มีคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ เมื่อ 28 ธันวาคม 2565 ตนขอตั้งข้อสังเเกตว่าการย้ายดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือไม่ให้ถูกตรวจค้นเพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากนายรัชฎาเป็นน้องชายของเพื่อนร่วมรุ่นคนสนิทและเป็นเพื่อรักของพล.อ.ประยุทธ์ ขณะเดียวกันในการทำโครงการภายใต้กรมอุทยานฯ ทั้ง การปลูกป่า ทำแนวกันไฟ ล้วนพบการทุจริตไม่ทำจริง เช่น ตั้งงบทำแนวกันไฟ 700 กิโลเมตรจากเชียงรายถึงกทม. แต่ไม่เคยถูกตรวจสอบว่าทำครบหรือไม่ และปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือปัจจุบันที่พบกว่า 300 จุด อาจเป็นเพราะว่าแนวกันไฟป่าไม่ได้ดำเนินการ
"ผมทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์อุ้มอธิบดีคนนี้มาตลอด ดังนั้นการเซ็นคำสั่งให้อดีตอธิบดีคนนี้มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เหมือนเอาลูกไก่ไปซุกใต้ปีกแม่ไก่ ตัดตอนไม่ให้ไปหาหลักฐานเพิ่มเติม เพราะเป็นน้องชายของเพื่อนรักหรือไม่ อดีตธิบดีคนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ฟูมฟักมาตั้งแต่เป็นผบ.ทบ. ช่วยผลักดันจนขึ้นมาเป็นอธิบดี ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธว่าไม่จริง กล้าสาบานกับสร้อยพระห้อยคอของท่านเองหรือไม่ การที่อดีตอธิบดีบอกว่า เงินของกลาง 5ล้านบาท เป็นค่าเช่าพระ ตนไม่เชื่อ แต่อยากรู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์เชื่อหรือไม่ วันนี้ผมไม่มีข้อเสนอแนะ เพราะเท่ากับเป่าปี่ให้กระบือฟัง เพราะใกล้ยุบสภาแล้วเขาคงไม่แก้ไข อย่างไรก็ดีหากจะให้เสนอแนะมีเรื่องเดียวคือ ประยุทธ์รีบๆ ออกไป เพราะเพื่อไทยจะได้มา”นายวิสาร กล่าว
ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจผูกขาดแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ใน ปปง. เพื่อใช้เป็นเครื่องมือเอื้อประโยชน์กลุ่มทุน โดยปัจจุบันพบว่าที่สำนักงาน ปปง. ที่ชั้น 3 เป็นห้องเรียกรับเงินและทำกิจกรรมสนุกสนาน ไม่ยำเกรงกฎหมาย ส่วนกรณีที่มติของวุฒิสภา เห็นชอบให้นายเทพสุ ชวรโชติดารา นั่งเลขาฯ ปปง. ทั้งที่เป็นบุคคลที่มีเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก ซึ่งตนอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะยื่น ป.ป.ช. เพื่อพิจารณามติของส.ว.ดังกล่าวเนื่องจากบุคคลที่ส.ว.เห็นชอบนั้นมีข้อร้องเรียนจำนวนมาก
"มติของส.ว. ที่เลือกเลขา ปปง. ผมสงสัยทำไมไม่พิจารณาให้ดี เพราะคนที่เป็นเลขา ปปง. สามารถคุณให้โทษฝ่ายรัฐบาลหรือฝั่งตรงกันข้าม เมื่อส.ว. ลงมติแบบนี้ ผมเกรงว่าหลังเลือกตั้ง ส.ว.จะเลือกกนายกฯ แบบนี้ และจากที่ผมเห็นข้อมูล นายกฯจะกล้านำชื่อเลขา ปปง.ทูลเกล้าฯ หรือไม่ หากจะเอาก็ตามใจ” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวด้วยว่าการทำงานของปปง. ปัจจุบัน โดยเฉพาะการประกาศคำสั่งยึดทรัพย์และคืนทรัพย์ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต แต่ปัจจุบันกลับไม่เปิดเผย โดยอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ทำให้การยึดทรัพย์ คืนทรัพย์ทำแบบงุบงิบ และตนทราบข่าวว่า ปปง. คืนทรัพย์สินให้เจ้าของบ่อนพนันหลายร้อยล้านบาท
“การอภิปรายทั่วไปวันนี้ ผมไม่อาจให้ข้อเสนอแนะใดๆได้ แต่ขอแนะนำเรื่องเดียว คือ พรรคท่านไม่ต้องทำนโยบายอะไรนอกจาก ไก่สามอย่าง คือ คิดอย่าง พูดอย่าง ทำอย่าง”นายสมคิด กล่าว.