“ธนกร” สวน “ณัฐวุฒิ” ย้อนดูคนในเพื่อไทยเกี่ยวข้องอะไรกับ "ตู้ห่าว"
“ธนกร” สวน “ณัฐวุฒิ” หัดยอมรับความจริง "ตู้ห่าว" ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับรัฐบาล “บิ๊กตู่” ย้อนให้ถามคนในพรรคตัวเองบ้าง เกี่ยวข้องหลาน-ลูกเขย อดีต รมต.รัฐบาลชุดไหน ถึงได้สัญชาติไทย
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในประเด็นทุนจีนสีเทาในไทย โดยอ้างว่าทุนจีนสีเทาเข้ามาตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้านี้แล้วนั้น เป็นการเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่นว่า
ก่อนอื่นนายณัฐวุฒิควรต้องยอมรับความจริงก่อนว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนปี 2557 แต่เมื่อท่านนายกฯ ทราบเรื่องก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนทันที จนทราบว่ามีการไปซื้ออสังหาริมทรัพย์แบบยกหมู่บ้าน จึงเป็นที่มาของวลีที่ว่า ขายบ้าน แถมสัญชาติ ซึ่งเมื่อความจริงค่อยๆ กระจ่าง เข้าใจได้ว่าหลักฐานที่ปรากฎแม้ว่าจะถูกต้อง แต่อาจไม่ถูกใจหรือไม่ทันใจนายณัฐวุฒิและพรรคเพื่อไทยอยู่บ้าง
แต่ก็ควรหัดยอมรับความจริงด้วยว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่แล้ว มีการจับกุมและขยายผลจนได้ผู้ต้องหาหลายราย บางรายที่หลบหนีก็ออกหมายจับ และอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ถูกมองว่าเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ก็มีการตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวน มีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อนไปแล้ว รวมถึงดำเนินคดีอาญาตามกฏหมายหากพบว่ามีความผิดจริง ดังนั้น อย่าพยายามโยงเรื่องนี้แบบแถเข้าว่า เพื่อให้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลนี้ให้ได้ ทั้งๆ ที่หลักฐานก็เห็นอยู่ตำตาว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
สำหรับประเด็นการคอรัปชั่นหรือไม่นั้น คิดว่าประชาชนคงเห็นชัดเจนอยู่แล้วว่า รัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคไหนที่มีปัญหาเรื่องคอรัปชั่น รัฐมนตรีในรัฐบาลไหนที่ติดคุกไปแล้วตั้งหลายคน ขณะที่ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา ยังไม่มีรัฐมนตรีคนไหนที่ติดคุกเลยสักราย
เรื่องสัญชาติของนายตู้ห่าว ที่ขอแปลงสัญชาติไทย ก็ปรากฎหลักฐานชัดเจนว่า ได้ร้องขอแปลงสัญชาติโดยใช้สิทธิตามกฎหมายหลังแต่งงานกับคนไทยสัญชาติไทย โดยยื่นขอตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งผู้มีอำนาจในการอนุญาตคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเองใช่หรือไม่ ที่อนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทยได้เมื่อปี 2556
ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยอยากจะเกาะกระแสเรื่องนี้ ก็ควรเริ่มต้นจากการตอบคำถามก่อนว่า ภรรยาของนายตู้ห่าวมีศักดิ์เป็นหลานของอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคที่นายณัฐวุฒิรู้จักดีใช่หรือไม่ และ ภรรยาส.ส.คนไหนที่ไปมีหุ้นอยู่ด้วย ออกมายืดอกรับความจริงกับสังคมบ้างว่า สรุปแล้วภรรยาของนายตู้ห่าวมีความเกี่ยวข้องกับอดีตรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลพรรคไหนกันแน่ อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าสิ่งที่คุณณัฐวุฒิและพรรคเพื่อไทยกำลังทำอยู่ในขณะนี้ต่างหาก ที่เขาเรียกว่าพยายามเอาชั่วให้คนอื่น